นครศรีธรรมราช – นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่ายุทธศาสตร์ของจ.นครศรีธรรมราชมี 2 แนวทางหลักคือ การสร้างความเป็นเมืองศิลปวัฒนธรรม และเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่ง รายได้อันดับ 1 เป็นภาคการเกษตร อันดับ 2 ค้าปลีก- ค้าส่ง 3 อุตสาหกรรมการผลิต และการท่องเที่ยว ปัจจุบันรายได้จากผลไม้ตามมาติดๆ กับพืชเศรษฐกิจทั้งยางพาราและปาล์ม รองลงมาทุเรียนและมังคุด ในเรื่องการท่องเที่ยวเปิดมิติค่อนข้างมาก เป็นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่สำคัญมีโบราณสถาน โบราณวัตถุ และเป็นที่ศรัทธา เชื่อถือ โดยในเดือนก.ย.อยากเชิญชวนมางานเทศกาลเดือนสิบ เป็นงานบุญเดือนสิบของคนนครหรือคนภาคใต้ทั้งหมด จะจัดตั้งแต่วันที่ 19-28 ก.ย.

แม้มีสถานการณ์โควิด-19 แต่คนมาเที่ยวเมืองนครเป็นอันดับต้นๆ ของภาคใต้ รายได้เป็นอันดับ 12 ของประเทศ เป็นตัวชี้วัดว่าเมืองนครเป็นเมืองที่เหมาะกับการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยทุกสถานการณ์ เรื่องเศรษฐกิจ มีการลงทุนในภาคเอกชนค่อนข้างมาก เป็นการลงทุนในรายค้าปลีก หรือค่าส่งภายในพื้นที่ระหว่างในจังหวัดและระหว่างจังหวัดค่อนข้างบูมมาก เวลานี้การจราจรคับคั่ง ไฟลต์บินเริ่มกลับมา ในอดีตมีไฟลต์บินสูงสุดวันหนึ่ง 66 ไฟลต์ วันนี้ฟื้นกลับมาถึง 20-30 ไฟลต์ กำลังเข้าสู่ปกติ

สำหรับปัญหาเดิมๆ ที่แก้ไขและคลี่คลายไปในทาง ที่ดีคือเรื่องอุทกภัยของเมืองนครศรีธรรมราช ด้วยโครงการพระราชดำริแก้ไขปัญหาอุทกภัยเลี่ยงเมืองนคร อยู่ระหว่างดำเนินการ ในปี 2566 น่าจะเรียบร้อย เป็นการผันน้ำไม่ให้เข้าสู่ตัวเมือง แผนต่อมาต้องไปช่วยลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งต้องหาช่องทางการระบายน้ำลงสู่ทะเลให้ได้เร็วที่สุด เหมือนโครงการขุดคลองระบายน้ำชะอวด- แพรกเมือง พร้อมประตูระบายน้ำและคันกั้นทราย (โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง) ซึ่งเป็นพระราชดำริที่ดีมาก ช่วยทั้งเรื่องของการเกษตรและป้องกันน้ำท่วม

วันนี้พื้นที่ทุ่งนาเปลี่ยนเป็นสวนปาล์ม เป็นส้มโอทับทิมสยามที่มีชื่อ สร้างมูลค่าค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องการจัดการน้ำทางด้านการเกษตร น้ำท่วม น้ำแล้ง ปัญหาภัยแล้งก็ยังมีอยู่บ้าง เช่น พรุควนเคร็งในช่วงหน้าแล้ง แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการ แนวคิดใหม่ๆ ไป 2-3 เรื่อง จนแก้ได้ในระดับหนึ่ง และจะทำอย่างไรให้ยั่งยืนต่อไป อาจสร้างคลองไส้ไก่ หรือการ ผันน้ำจากคลองชะโอดเข้ามาช่วย หรือการเก็บน้ำไว้ในพรุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน