จากนางเอกเจ้าน้ำตา มาร่ายร้ายในละคร “ภูตแม่น้ำโขง” ทางช่อง 3 กับบท ‘เจ้าแม่ทอหูก’ สำหรับนางเอกหน้าหวาน ‘ยิหวา’ ปรียากานต์ ใจกันทะ ที่งานนี้ไม่ได้ร้ายธรรมดา แต่ร้ายที่สะสมความแค้นนานนับพันปี

โดยวันนี้เจ้าตัวมาเปิดใจถึงความท้าทายกับบทบาทที่ได้รับ พร้อมอัพเดตชีวิตส่วนตัว

ในละคร ภูตแม่น้ำโขง เราพลิกบทบาทรับบท เจ้าแม่ทอหูก?
ยิหวา – “ใช่ค่ะ ปกติหวาจะเป็น ผู้ถูกกระทำเจ้าน้ำตา ถึงคราวมาลองเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ไปกระทำคนอื่นบ้าง เป็นบทบาทที่ท้าทาย และก่อนเปิดกล้องก็ไปจ.หนองคายกับทีมงาน ไปไหว้พระธาตุหล้าหนอง และวัดหายโศก ซึ่งมีศาลเจ้าแม่สองนาง อีกวัดหนึ่งคือพระธาตุบังพวน ไปบอกกล่าวขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวมถึง เจ้าแม่ค่ะ คือเจ้าแม่ทอหูกเป็นตำนานตามลุ่มน้ำโขง แต่ละจังหวัดจะมีศาลที่ใช้ชื่อไม่เหมือนกัน ซึ่งพวกเราจะอิงไปทางหนองคายที่เรียกว่า ศาลเจ้าแม่สองนาง ก็เลยไปไหว้ที่นั่น เป็นความเชื่อที่คนตามลุ่มน้ำโขงให้ความศรัทธา”

ความยากในบท เจ้าแม่ทอหูก ที่ต้องเล่นให้เข้าถึงบทบาทนี้?
ยิหวา – “ตัวละครนี้เขามั่นคงเหลือเกิน ทำไมถึงรักและรอใครได้นานเป็นพันปี เป็นจุดที่ต้องทำการบ้าน เรื่องนี้โชคดีที่ได้เล่นสองพาร์ต พาร์ตอดีตและพาร์ตปัจจุบัน ซึ่งก็เป็นพีเรียดเหมือนกัน ในอดีตชาติ 1,000 ปีที่แล้ว เราถูกกระทำ ส่งผลให้ชาตินี้เราไปทำคนอื่น ค่อนข้างมีเหตุมีผลว่าจริงๆ เราไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ที่ทำเป็นแค่การเรียกร้องสิทธิ์ คนมาท้าทายเรา เวลาเจ้าแม่ทอหูกโกรธน่ากลัว เป็นลุกส์ที่ต้องแต่งหน้าเข้ม ดูดุ ไม่เคยมีใครเห็นเราในลุกส์นี้ แล้วจะเครียดตอนเป็นอัญญานางทอหูกด้วย เป็นซีนประหารชีวิต มันยากและใช้ความรู้สึกเยอะมาก”

“ส่วนฉากที่ยากในการเป็นเจ้าแม่ทอหูก คือฉากใต้น้ำทั้งหมด เพราะหวาว่ายน้ำไม่เป็นดำน้ำไม่ได้ ต้องไปเรียน แล้วการถ่ายทำจริงสระลึก 4-5 เมตร มันมืด พอลงไปลึกมากๆ จะทำให้แก้วหูเจ็บ ต้องเคลียร์หู ถ้าเริ่มวิตกจะลืมทุกอย่าง เราต้องซ้อมเยอะกว่าคนอื่นเยอะมากทั้งกลางวันกลางคืน ไม่อยากให้เขาเสียเวลา เพราะใต้น้ำมันเป็นโลเกชั่นหลักของเรา มีความ ยากลำบาก ครูบอกว่ากระโดดไปเลย เราก็อยากโดดแต่ใจไม่ไป ขาแข็งมาก (หัวเราะ) แต่จริงๆ ก็มีคนช่วยเซฟอยู่รอบๆ เต็ม ไปหมด มันเป็นความกลัวของตัวหวาเอง”

ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ก้าวข้ามขีดจำกัดความกลัวของตัวเอง?
ยิหวา – “ใช่ ได้ทำหลายอย่างมาก นอกจากฉากใต้น้ำ มีฉากบนที่สูงก็กลัวความสูงอีก จะมีฉากหลอกนางเอกว่าเป็นแม่เขา ไปหลอกเขาอยู่บนต้นไม้ ต้องปีนนั่งร้านสองชั้น ตอนมีนั่งร้านก็ยังโอเค แต่ตอนเอานั่งร้านออกมันหวิว ต้องเกริ่นก่อนว่าหวาเคยประสบอุบัติเหตุสันหลังร้าว ก็รู้สึกว่าการทำอะไรแบบนี้มันเสี่ยง ก็เลยกลัว แต่ตอนนี้โอเคแล้ว”

เจออาถรรพ์ในกองไหม?
ยิหวา – “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ตัวหวาไม่อยากจะงมงาย แต่บางทีก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เราฝัน ในฝันท่านมา บอกว่าอย่าลบหลู่ท่าน หลังจากฝันก็กลัวมาก ปรึกษา ทีมงาน ทางพี่ทีมงานก็บอกว่าท่านน่าจะอยากให้เรารักษาศีล เราก็พยายามรักษาศีล งดทานเนื้อสัตว์ทุกวันพระระหว่างถ่ายทำ งานทุกอย่างก็ราบรื่นดี ตอนที่ฝันท่านมาเป็นเสียงค่ะ หวาเห็นแค่บริวารแต่ไม่เห็นท่าน”

ความรู้สึกตอนแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นเจ้าแม่ทอหูกเป็นอย่างไร?
ยิหวา – “ไม่กล้าเล่นอะไรกับใครเลย อย่างบางทีน้องอุ้ม (อิษยา) เล่นติ๊กต็อก อยู่ในกองพี่ๆ ก็แซวเล่นกัน เราไม่กล้าเล่นเลย กลัวมาก ละครเรื่องนี้นับเป็นหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีชในชีวิตการแสดง ได้รับเกียรติมากๆ ที่ได้แสดงเรื่องนี้เพราะมันเป็นตำนานค่ะ”

ความรักกับ ‘เปอร์ สุวิกรม’ ยังหวานเหมือนเดิม?
ยิหวา – “ก็เรื่อยๆ ปกติ ไม่หวือหวา เขาเป็นพี่ที่ให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่อง วิธีประคองความรักน่าจะเป็นความเข้าใจที่ทำให้เราไม่ค่อยมีปัญหากัน หรือถ้ามีอะไรก็คุยกันเลย เป็นคนไม่ติดค้าง ถ้าสงสัยก็ถาม แล้วตัวเขาค่อนข้างเปิด ปรับเปลี่ยนปรับตัวกันตลอดเวลา”

“เราคบกันจะเข้าปีที่ 7 แล้ว ไม่กลัวอาถรรพ์ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ส่วนอนาคตชีวิตคู่ เรื่อยๆ ต่างคนต่างไม่รีบ โฟกัสงานความรับผิดชอบของตัวเองไปก่อนค่ะ”

วางแผนชีวิตหลังจากนี้ยังไง?
ยิหวา – “ยังไม่วางแพลนอะไรมาก ถือคติใช้ชีวิตวันนี้ให้มีความสุข แล้วคิดว่าพรุ่งนี้ อาจจะไม่มีเราก็ได้ ไม่โกรธไม่เกลียดใคร หรืออยากขอโทษใครให้ทำซะ สำหรับอาชีพนักแสดง หวาเข้าวงการมา 8 ปีแล้ว อยากทำงานตรงนี้ไปเรื่อยๆ เพราะยังมีอีกหลายบทบาทที่อยากเล่น คงเป็นไปตามสเต็ปช่วงอายุ อยากรู้เหมือนกันว่าบทบาทไหนที่เราเล่นแล้วรู้สึกว่าอันนี้โอเคแหละ ตายตาหลับ”

อะไรคือความสุขในชีวิตของยิหวา?
ยิหวา – “มันคือการที่มีคนรอบข้างดี มันจะส่งเสริมชีวิตเราให้มีความสุขและดีไปด้วยค่ะ”

วีรนุช จันทำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน