“เคยสงสัยไหมว่า มนุษย์เราเกิดมาเหมือนๆกัน แต่ทำไมจึงมีชีวิต แตกต่างกัน อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้คนเรามีวิถีที่แตกต่างกันเช่นนี้” พระครูวิบูลเจติยานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เมตตามาชี้แนะ ในหัวข้อ “มองทุกข์ในสังสารวัฏ ให้เห็นชัดในปัจจุบัน” เวที “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” จัดโดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็วๆ นี้

พระครูวิบูลเจติยานุรักษ์อธิบาย เหตุปัจจัยที่จะทำให้คนเรามีอายุยืนยาวหรือสั้นว่า โดยหลักการทางศาสนา มีเรื่องผลของบาปบุญคุณโทษเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งในเรื่องของบาปบุญคุณโทษนี้

ท่านยกตัวอย่างพระพุทธเจ้าในเช้า วันที่จะตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงบรรลุญาณก่อนที่จะถึงอาสวักขยญาณ คือ บรรลุบุพเพนิวาสานุสติญาณ ทรงรู้ว่าเกิดเป็นอะไร ตั้งแต่ครั้งไหน เมื่อไหร่ มีชาติตระกูลอย่างไร อย่างที่สองคือ จุตูปปาตญาณ อันเป็นเครื่องกำหนดรู้เห็นการเกิดดับของสรรพสัตว์ทั้งหลายในสามโลก และอย่างสุดท้ายคือ อาสวักขยญาณ ยานอันเป็นที่สิ้นไปแห่งกิเลส จุดสำคัญที่น่าสนใจของชาวพุทธ ผู้ยังเป็นพุทธชนอยู่ คือ อย่างที่สอง การรู้เห็นเกิดดับของสรรพสัตว์ทั้งหลายในสามโลกคือ มนุษย์โลก อบายภูมิ และเทวโลก ทรงเห็นวิญญาณที่มีการเคลื่อนไหวเกิดดับในแต่ละวินาทีจำนวนนับไม่ถ้วน

ในการเกิดดับของสัตว์ในสังสารวัฏ บางคนก็ไปอุบัติขึ้นในเทวโลก บางคนลงมาอยู่ในอบายภูมิเบื้องล่าง ในชีวิตของเราทุกคนจะเป็นเช่นนี้ ตราบใดที่ยังมี อาสวกิเลส มีความโลภ โกรธ หลง อันเป็นที่จะทำให้เกิดในภพภูมิใหม่เหมือนกันหมด ฉะนั้น การทำความเข้าใจใน เรื่องสงสารวัฏของผู้ที่จะปฏิบัติธรรม ต้องเข้าใจให้มาก ต้องเข้าใจเรื่องเวียนว่ายตายเกิด เมื่อเรารู้ว่าวันใดวันหนึ่งเราก็ต้องตาย เราต้องดูว่าเราควรจะไปเกิดที่ไหนและวิธีที่จะไปเกิดที่นั่นได้พึงปฏิบัติตนอย่างไร

ท่านยกตัวอย่างเรื่องในธรรมบท สมัยพระเจ้าปเสนทิโกศล พระองค์ทรงมีมเหสีที่โปรดปรานคือ พระนางมัลลิกา พระนางมีจิตฝักใฝ่ในสิ่งที่เป็นบุญเท่านั้น แต่มีเพียงครั้งหนึ่งที่พระนางได้มุสาพระสวามีแล้วในวันที่จะสิ้นพระชนม์ จิตดวงสุดท้าย ซึ่งเป็นจิตสำคัญมาก บุญกุศลนับพันนับหมื่นครั้งที่ได้ทำมาตลอดชีวิต ไม่ได้แทรกเข้าไปในสภาวจิตดวงสุดท้าย ดวงจิตของพระองค์ไปผูกอยู่กับการ กระทำผิด ด้วยการมุสาพระสวามีเท่านั้น จนจิตดับลง จึงไปตกอบายภูมิอยู่ได้ 7 วัน เพื่อใช้กรรม จึงจะได้ไปอุบัติยังเทวโลก

จากเรื่องที่เล่ามาสอดคล้องกับที่พุทธองค์ตรัสว่า เมื่อจิตจะดับหากจิตเศร้าหมองไม่ผ่องใสย่อมมีทุกข์คติเป็นที่ไป และในทางตรงกันข้ามพระองค์ก็บอกว่าในเวลาที่จิตดวงสุดท้ายจะดับ หากจิตผ่องใสไม่เศร้าหมองมีสุคติภพเป็นที่ไป จะเห็นได้ว่าบาปบุญแค่เพียงเล็กน้อยมีผลมากตอนที่จิตจะดับ พระพุทธเจ้าจึงสอนคนให้หมั่นทำบุญจนจิตคุ้นเคย

เจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์ทิ้งท้าย โดยแนะนำให้ลองมองคนรอบบ้าน รอบตัว รอบชุมชน รอบประเทศ จะเห็นว่าแต่ละคนเกิดมามีชีวิตต่างกัน สิ่งที่ทำให้ชีวิตคนเราไม่เหมือนกันคือ กรรม จะทำหน้าที่จัดสรรอย่างละเอียดลออให้สรรพสัตว์มีหน้าที่ต่างกัน การดำรงชีวิตนี้ขอให้ทุกคนมั่นคงในทาน ศีล ภาวนา เป็นหลัก

ศีล ส่งผลเรื่องอายุขัย โรคภัยไข้เจ็บ ผิวพรรณ วรรณะ ถ้าเว้นขาดจากการฆ่าทำร้าย มีจิตเมตตาในสัตว์ทั้งหลาย เกิดชาติไหนโรคภัยจะน้อย บางคนอยู่จนแก่ แทบจะไม่ป่วย บางคนเกิดมาก็ไม่สมบูรณ์เพราะวิบากกรรมของปาณาติบาต รักษาศีลให้ดีก็ไม่ต้องปรุงแต่งสังขารตัวเอง

สวดมนต์ภาวนา ส่งผลเรื่องสติปัญญา ก่อนนอนก็สละเวลาสวดมนต์สัก 15 นาที การสวดมนต์เป็นคุณูปการอย่างมากในตอนที่จิตจะดับ บุญที่พวกเราทำไว้แล้วจะไปคอยต้อนรับเราเหมือนญาติที่คอยต้อนรับญาติที่เดินทางมาจากถิ่นทุรกันดาร พวกเราเดินทางไกลมา เดินทางไกลจากสังสารวัฏ ในสังสารวัฏอันยาวไกลก่อนจะสิ้นภพชาติ เปลี่ยนแต่กาย วิญญาณยังคงดวงเดิมดวงเดียว

พบกับกิจกรรมเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00-13.30 น. ผ่านช่องทาง facebook fanpage CPALL หรือสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน พร้อมรับฟังคติธรรมดีๆ ในช่องทาง TikTok ได้ที่ ธรรมะ TikTok

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน