เพชรบูรณ์ – นายสงกรานต์ ภักดีจิตร ตัวแทนชาวไร่ยาสูบ เผยว่า ยาสูบนับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพืชที่สร้างรายได้เข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ไม่ต่ำกว่าปีละ 500 ล้านบาท แต่เนื่องจากปัจจุบันนี้ราคาปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ยากำจัดศัตรูพืช รวมทั้งน้ำมันที่แพงขึ้นสวนทางกับรายได้ของเกษตรกร โดยเฉพาะปุ๋ยเคมีสำหรับที่ใช้ในการเพาะปลูกใบยาสูบมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วไร่ละ 2,956 บาท เฉลี่ยแล้วต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นกิโลกรัมละ 7.39 บาท

เกษตรกรชาวไร่ยาสูบมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าหากการยาสูบแห่งประเทศไทยไม่หาทางช่วยเหลือในเรื่องนี้อย่างจริงจังและเร่งด่วน ในการเพาะปลูกใบยาสูบสำหรับฤดูกาล 2565/2566 ชาวไร่ยาสูบจะต้องประสบกับปัญหาขาดทุนอย่างแน่นอน

ในเมื่อต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น การช่วยเหลือในด้านวงเงินกู้อย่างเดียวคงไม่พอ การยาสูบแห่งประเทศไทยควรมีนโยบาย ช่วยเหลือในเรื่องของปัจจัยการผลิตให้เกษตรกรชาวไร่ยาสูบด้วย เพื่อให้อาชีพการเพาะปลูกยาสูบสามารถดำรงอยู่คู่กับจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อไปได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน