นครศรีธรรมราช – นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน นำโดยนายรังสิมันต์ โรม โฆษกกรรมาธิการฯ มีตัวแทนพี่น้องประชาชนจากสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย (นครศรีธรรมราช) ตัวแทนจากลุ่มน้ำปากพนัง และตัวแทนจากกลุ่มปัญหาที่ดิน อ.ทุ่งใหญ่ ร่วมประชุมเพื่อนำเสนอข้อมูลและแนวทางการแก้ปัญหาในพื้นที่
นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมสมาพันธ์ประมง พื้นบ้านแห่งประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมปัญหาประมงไทยในปัจจุบันว่ากำลังประสบปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย การใช้เครื่องมือที่ทำลายสัตว์น้ำวัยอ่อน รวมทั้งการที่ยังไม่มีการออกกฎกระทรวงตามพระราชกำหนดประมง 2558 เรื่องการกำหนดเงื่อนไขในการห้ามจับสัตว์น้ำวัยอ่อน ด้านนายเจริญ โต๊ะอิแต ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน อยากให้ทางคณะกรรมาธิการช่วยติดตามการบังคับใช้กฎหมายประมง เพื่อปกป้องทรัพยากรทางทะเล โดยเร็ว แม้ว่าสถานการณ์การทำประมงในจังหวัดนครศรีธรรมราชจะดีขึ้นจากการที่มีกลุ่มชาวบ้านทำงานอนุรักษ์ฟื้นฟูในพื้นที่และการที่เจ้าหน้าที่ภาครัฐกวดขันจับกุมการทำประมงผิดกฎหมาย แต่ในระยะยาว หากมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังจะเป็นการช่วยรักษาทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อลูกหลานในอนาคต
ร่วมประชุม – นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รอง ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช นายรังสิมันต์ โรม โฆษกกมธ.กฎหมายฯ นายปกรณ์ อารีกุล อนุกรรมาธิการฯ พร้อมตัวแทนประมงพื้นบ้าน, ลุ่มน้ำปากพนัง และกลุ่มปัญหาที่ดิน อ.ทุ่งใหญ่ นำเสนอข้อมูลและแนวทางการแก้ปัญหา ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ศาลากลางจังหวัด
นายวัชระ เกตุชู ตัวแทนชาวบ้านจากลุ่มน้ำปากพนังกล่าวว่า พื้นที่กว่า 200,000 ไร่ในลุ่มน้ำปากพนัง รับผล กระทบจากโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ เนื่องจากการเปิด-ปิดประตูน้ำอุทกวิภาชประสิทธิที่ อ.ปากพนัง ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ ปีไหนที่แล้งก็แล้งจนเกิดไฟไหม้ป่าพรุ ส่วนปีไหนที่ฝนตกชุก น้ำก็จะท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ
นายวัชระกล่าวต่อว่า ช่วงหลังกรมชลประทานพยายามปิดประตูน้ำเพื่อไม่ให้เกิดกรณีไฟไหม้ขึ้นอีก ส่งผลให้พืชสวนของเกษตรกรในพื้นที่ล้มตาย สัตว์น้ำหลายชนิดเกือบสูญพันธุ์ อาทิ กุ้งก้ามกราม ได้ลดจำนวนลงเป็นจำนวนมากจากบริเวณพื้นที่
ด้านนายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า หลายประเด็นที่พูดคุย เรื่องที่ต้องใช้การผลักดันเชิงนโยบายส่วนกลาง เช่น มาตรา 57 ตามพ.ร.ก.ประมง 2558 ตนรับจะไปผลักดันในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
