บีบีซีรายงานวันที่ 14 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ระบุไม่ต้องการโจมตีขนานใหญ่ในยูเครนอีก หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธใส่หลายเมืองทั่วยูเครนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 ต.ค. ที่มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บหลายสิบคน และสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน นับเป็นการโจมตียูเครนที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานเมื่อเดือนก.พ. นอกจากนี้ พื้นที่ใจกลางกรุงเคียฟตกเป็นเป้าหมายครั้งแรกตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุ

ผู้นำรัสเซียกล่าวต่อผู้สื่อข่าว หลังการประชุมสุดยอดกับผู้นำภูมิภาคในกรุงอัสตานาของประเทศคาซัคสถานว่า การโจมตีครั้งล่าสุด ซึ่งนายปูตินระบุว่าเป็นการตอบโต้ระเบิดสะพานไครเมียที่เชื่อมกับรัสเซียนั้น ทำลายเป้าหมายในยูเครน 22 จุด จากทั้งหมด 29 จุดที่กองทัพกำหนด และกำลังจพพิชิตอีก 7 จุดที่เหลือ นายปูตินกล่าวว่า “เราไม่มีความจำเป็นต้องการโจมตีขนานใหญ่อีก ตอนนี้เรามีงานอื่นต้องทำ และกล่าวว่า รัสเซียไม่ได้ตั้งใจทำลายยูเครน แต่ไม่ได้เสียใจกับการรุกรานยูเครนเช่นกัน” วันเดียวกันรัฐบาลรัสเซียสั่งให้ผู้รับเหมาซ่อมแซมสะพานหลักที่เชื่อมไครเมียกับรัสเซียเสร็จสิ้นภายในเดือนก.ค.2566 หลังเกิดระเบิดสะพานดังกล่าวเสียหายเมื่อวันเสาร์ที่ 8 ต.ค. ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน