เมื่อวันที่ 19 ต.ค. รอยเตอร์รายงานความคืบหน้าสงครามในประเทศยูเครน ว่าพลอากาศเอกเซอร์เก ซูโรวิกิน ผู้บัญชาการ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ของกองทัพรัสเซียในยูเครน ซึ่งถูกประชาคมโลกประณามว่าเป็นการรุกราน กล่าวยอมรับถึงสถานการณ์ในแคว้นเคอร์ซันทางภาคใต้ของยูเครนที่เพิ่งถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ว่าตึงเครียดและกำลังพลของรัสเซียกำลังเผชิญกับการโจมตีอย่างหนักหน่วงจากรถยิงจรวดหลายลำกล้อง HIMARS จากฝ่ายยูเครน พร้อมอ้างว่ารัสเซียกำลังเร่งอพยพพลเรือนกว่า 5 หมื่นคนออกจากพื้นที่ที่กำลังจะกลายเป็นสนามรบ

เหลือแต่ซาก – สภาพย่านที่เคยเป็นห้างสรรพสินค้าและพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่เมืองคูเปียนสก์ แคว้นคาร์คีฟ หลังกองทัพยูเครนสามารถปลดปล่อยพื้นที่จากการยึดครองของรัสเซียได้ และมีแผนจะบุกแคว้นเคอร์ซันทางภาคใต้ต่อ เมื่อ 19 ต.ค. (รอยเตอร์)

พล.อ.อ.ซูโรวิกินกล่าวหากองทัพยูเครนว่าเจตนาทำลายเป้าหมายพลเรือนและสาธารณูปโภคที่เมืองเคอร์ซันทำให้สถานการณ์เป็นไปอย่างยากลำบากแต่ตนยืนยันว่ารัสเซียจะให้ความสำคัญกับการอพยพพลเรือนออกจากสนามรบก่อนเป็นสิ่งแรก โดยการยอมรับของฝ่ายรัสเซียเกิดขึ้นหลังกองทัพรัสเซียถอยร่นจากการพลิกเกมรุกคืบของกองทัพยูเครนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสูญเสียพื้นที่ในแคว้นดังกล่าวไป 20 ถึง 30 กิโลเมตร และกำลังพลรัสเซียนั้น ถูกดันไปจนหลังชนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนีปรอ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่กำลังพลส่วนนี้ของรัสเซียอาจถูกปิดล้อมและสูญเสียไปทั้งหมด

นายวลาดิมีร์ โรกอฟ บุคคลที่รัสเซียแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในสมาชิกสภาปกครองแคว้น ซาโปริฌเฌีย อ้างว่า กองทัพยูเครนยกระดับการยิงถล่มเมืองเอเนียร์โฮเดร์ ซึ่งเป็นที่อาศัยของบุคลากรผู้ดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริฌเฌีย แต่นายดมิโทร ออร์ลอฟ นายกเทศมนตรี เมืองเอเนียร์โฮเดร์ของยูเครน กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือยิงถล่มของกองทัพรัสเซีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน