ภาพจำของนักเลงรถเมืองไทยที่มีต่อรถปิกอัพ คืออาการท้ายร่อน โดยเฉพาะเวลาที่ไม่ได้มีสัมภาระบรรทุกในกระบะท้าย รายไหนรายนั้น เจอน้ำ เจอทรายบนถนน เกิดอาการให้เห็นได้ไม่ยากหากใส่ เกินกำลัง

ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ค่ายรถปิกอัพน้อยใหญ่ต่างเร่งพัฒนาช่วงล่างเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และขับขี่สบายมากขึ้น

ค่ายพี่ใหญ่ โตโยต้า ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการนำชุดช่วงล่าง GR-Sport ที่พัฒนามาจากทีมแข่งระดับโลก Gazoo Racing มาใส่ไว้ในรถรุ่นต่างๆ ได้รับคำชื่นชม พร้อมด้วยยอดขายถล่มทลาย

ล่าสุดเอาใจปิกอัพขาซิ่งด้วยการนำชุดช่วงล่าง GR-Sport มาใส่ในเจ้า ไฮลักซ์ รีโว่-ดี 4 ประตู Z-Edition ปิกอัพตัวเตี้ย ขวัญใจวัยรุ่นวัยใหม่ และ หนุ่ม-สาวโรงงานอุตสาหกรรม ที่ใช้คันเดียว ทั้งในชีวิตประจำวันและเพื่อสันทนาการ

ดีขึ้นแค่ไหน ถ้าไม่ได้ทดลองขับคงจะไม่มีทางได้รู้ ว่าแล้วทีมงานประชาสัมพันธ์ โตโยต้า ประเทศไทย นำโดย ‘แขไข’ สุชญา เชียรแกล้วกล้า ผู้จัดการฝ่ายบริหารการตลาด และประชาสัมพันธ์สาวอารมณ์ดี

จัดทริปทดสอบ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่-ดี 4 ประตู Z Edition 2.4 Mid AT ตัวท็อปสุดของรุ่น เส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ระยะทางไป-กลับ กว่า 400 ก.ม.

ดีไซน์ภายนอก ภายใน ไม่ได้ต่างจากเดิม แต่มีเพิ่มเติมความสะดวกสบายกับไฟหน้าเปิด-ปิด และปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ลดความวุ่นวายในการปรับเรื่องไฟหน้าไปได้เยอะ

ตกลงกับสาวๆ ร่วมคันว่าขอว่าขับไปรวดเดียวถึงเขาใหญ่เลย เพราะดูจะได้ระยะทาง รวมถึงรูปแบบถนน และการจราจรที่หลากหลาย

ออกเดินทางจาก TOYOTA ALIVE บนถ.บางนา-ตราด ก.ม.3 แม้จะเป็นช่วงสายวันธรรมดาแล้ว แต่รถรายังคลาคล่ำเต็มถนน

อาศัยรูปร่างที่ปราดเปรียว เร่งแซง ซอกแซก ซ้ายขวา ได้อย่างคล่องแคล่ว

กำลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร มีม้าหนุ่มบรรจุอยู่สูงสุด 150 ตัว ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เรียกมาใช้งานได้ตั้งแต่ตีนต้น ไม่มีอืดไม่มีย้วย

ต่อเนื่องจนถึงตีนปลาย ไล่ความเร็วขึ้นไปได้เรื่อยๆ แต่จังหวะคิกดาวน์ดูเหมือนตัวเครื่องยนต์มีต้องคิดแว้บหนึ่ง ไม่ได้มาทันทีตามแรงกดคันเร่ง แต่แค่แว้บเดียว จากนั้นกำลังก็มาให้ใช้งานเป็นปกติ

ถึงจะเป็นเครื่องยนต์บล็อกเล็ก แต่ความแรงนั้นไม่น้อย เส้นถนนเลียบคลองรังสิตมุ่งไปจ.นครนายก ออกตัวหลังติดไฟแดงเป็น คันแรก แถมข้างหน้าโล่งชนิดไม่มีรถเลยสักคัน

เติมน้ำหนักเท้าบนแป้นคันเร่งหนักขึ้น หนักขึ้น เข็มไมล์ไต่ไปแบบไม่มีเหนื่อย ไม่มีท้อ 130-140-150 ก.ม.ต่อช.ม. ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ซัดกันไปยาวๆ 170-180 ก.ม. สุดท้ายทะลุ 190 ก.ม.ต่อช.ม. เรียกว่าใส่กันแทบมิดไมล์ ที่มีอยู่ 200 ก.ม.ต่อช.ม. แรงไม่แรงคิดดูเอาเองแล้วกัน

แม้อยู่บนย่านความเร็วสูง แต่ช่วงล่างยังคงไว้ใจได้ หนึบแน่น ไม่มีสั่นไหว หรือวาบหวิวให้ได้รู้สึก รวมถึงการเข้าโค้งที่ทำได้กระชับฉับไว

เส้นทางบางช่วงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนมีแอ่งน้ำขังอยู่บนถนน ผ่อนความเร็วไม่ทันเพราะใส่กันมาเต็มสปีด กำพวงมาลัยแน่น สายตาจดจ้องบนถนนเพราะหวั่นใจอาการ เหินน้ำ

ผลที่ออกมาผ่านไปได้ราวกับอยู่บนทางเรียบ แรงเหยียบบนแอ่งน้ำทำให้เกิดอาการ น้ำบาน สาดกระเซ็นไปยังเลนข้างๆ ซ้าย-ขวา แบบเต็มๆ

แต่ตัวรถไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ เหินน้ำ หรือแฉลบท้ายบาน ผลน่าจะมาจากช่วงล่างใหม่ พร้อมกับลดความสูงตัวรถลง 23 ม.ม. รวมถึงขนาดล้อที่ใหญ่ขึ้นเป็น 17 นิ้ว เพิ่มความมั่นใจ แม้ถนนด้านหน้าดูเหมือน สายฝนจะโปรยปรายอีกยาวไกลก็ตาม

ขึ้นเขาใหญ่ฝั่งจ.ปราจีนบุรี เส้นทางทั้งแคบ คดโค้ง และลาดชัน พิสูจน์กำลังเครื่องยนต์ในการไต่ทางชัน และการยึดเกาะถนนเมื่อต้องผ่านทางโค้งติดต่อกัน

ขับสนุกขึ้นด้วยการเลือกใช้เกียร์โหมด แมนนวล ไม่ว่าจะเชนจ์เพื่อเรียกกำลังเมื่อผ่านทางโค้งและชันในเวลาเดียวกัน หรือจะลดความเร็วเมื่อลงทางลาด ช่วยให้ไม่ต้องแตะแป้นเบรกบ่อยๆ อันเป็นต้นเหตุของอาการ เบรกแตก

ลองแวะไปพิสูจน์ความหนึบแน่นของช่วงล่างที่พัฒนาโดยทีมแข่ง GR Sport และความแรงที่ไม่ธรรมดา กับค่าตัว 805,000 บาท ได้ที่โชว์รูมโตโยต้า ทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน