จากเหตุการณ์เบียดเสียด เหยียบกัน และขาดอากาศหายใจจนตาย ที่ย่านอิแทวอน ประเทศเกาหลีใต้ มีผู้เสียชีวิตถึง 154 ราย เป็น ชาวต่างชาติ 26 ราย จำนวนนั้นมีหญิงสาวไทยอายุ 27 ปี รวมอยู่ด้วย

สื่อต่างประเทศรายงานที่มาเหตุสลด เนื่องจากผู้คนนับแสนแออัดเบียดเสียดเข้าร่วมเทศกาล ฮัลโลวีน ย่านอิแทวอน แหล่งรวมร้านค้าและสถานบันเทิงชื่อดังใจกลางกรุงโซล เมืองหลวง

ก่อนหน้านี้เทศกาลจัดขึ้นประจำทุกปีช่วงปลายเดือนตุลาคม แต่ต้องหยุดไปในช่วงการระบาดโควิด-19 เมื่อกลับมาจัดอีกครั้งในรอบกว่า 2 ปี ทำให้มีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาร่วมงาน

กระทั่งเกิดอุบัติเหตุ งานเทศกาลกลายเป็นโศกนาฏกรรม สร้างความเศร้าสลดให้กับคนทั่วโลก

สื่อต่างประเทศระบุ อิแทวอน มีลักษณะเป็นสถานที่เป็นซอยแคบ สองฝั่งขนาบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คลับ บาร์ ในหมู่คนนับแสนแออัดเบียดเสียด คนหนึ่งถูกดันจนล้มลง คนอื่นๆ จึงล้มทับต่อกันเป็นโดมิโนมนุษย์ ถูกเหยียบท่ามกลางฝูงชน

เหตุการณ์ครั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตถึงการปฐมพยาบาลที่ล่าช้า ทำได้ยากลำบากเนื่องจากเป็นสถานที่คับแคบ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์อย่างเพียงพอ

รัฐมนตรีมหาดไทยเกาหลีใต้ ระบุว่า จำนวนคนที่มาร่วมกิจกรรมคืนวันฮัลโลวีน ไม่ได้มากกว่าปีก่อนๆ แต่ยอมรับว่าความผิดพลาดส่วนหนึ่งอาจมาจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป

โดยวางกำลังส่วนใหญ่ไปดูแลจัตุรัสควางฮวามุน อีกฝั่งของกรุงโซล เนื่องจากคาดว่าจะมีเหตุประท้วงเกิดขึ้น ทำให้มีเจ้าหน้าที่ย่านอิแทวอนไม่เพียงพอ

โศกนาฏกรรมอิแทวอน ยังสร้างความตื่นตัวให้กับไทย เกี่ยวกับมาตรการดูแลความปลอดภัย งานเทศกาลต่างๆ รวมถึงกิจกรรมบันเทิงขนาดใหญ่ ที่งดไปหลายปีช่วงโควิด ทำให้เกิดความอัดอั้น กลับมาจัดอีกครั้ง จึงมีคนเข้าร่วมจำนวนมาก

บทเรียนไม่นานมานี้ กรณีเมาน์เทน บี หรือนานกว่านั้นเมื่อปี 2551 กรณีซานติก้าผับ สะท้อนภาพบรรยากาศรวมตัวของผู้คนจำนวนมากในสถานที่แออัด ขาดมาตรฐานความปลอดภัย ประตู ทางหนีไฟคับแคบ ไม่พอต่อจำนวนนักท่องเที่ยว เมื่อเกิดเหตุจึงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ถูกไฟไหม้และเหยียบกันตาย

ถอดบทเรียนจากอิแทวอน ก็ต้องไม่ลืมถอดบทเรียนของเราเอง เริ่มจากเทศกาลลอยกระทง คริสต์มาส และปีใหม่นี้

เนื่องจากหน้าที่สำคัญของรัฐบาลอย่างหนึ่งคือ การดูแลความปลอดภัยประชาชน ไม่ให้เกิดความสูญเสียจากเหตุการณ์ที่สามารถออกมาตรการป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน