แมคคาเดเมียเป็นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบ และปลูกกันในหลายพื้นที่ภาคเหนือ บ้านเรา เชื่อว่าคนที่เคยไปท่องเที่ยวเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ คงเคยได้ลิ้มชิมรสแมคคาเดเมียผลผลิตของที่นี่ ซึ่งมีหลากหลายรสชาติให้เลือก เรียกว่าเป็นสินค้ามีชื่อของ ‘เขาค้อ’ เลยทีเดียว

วันก่อน ‘คุณวานุรัตน์ แสนยากุล’วัย 55 ปี ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตและแปรรูปแมคคาเดเมียเขาค้อ ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ มาโชว์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกลุ่มในงาน APEC BCG Economy Thailand 2022 : Tech to Biz (Thailand Tech Show 2022) ภายใต้แนวคิด ผสานพลังวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน ที่เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ จัดโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

คุณวานุรัตน์ สาวม้งที่จบปริญญาโท มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เล่าว่า กลุ่มจดทะเบียนปี 2558 มีสมาชิก 7 คน และมีเครือข่าย ผู้ปลูกแมคคาเดเมียอีก 70 คน มีพื้นที่ปลูกบนเขาค้อเป็นพันไร่ รวมทั้งมีพื้นที่เครือข่าย อาทิ ภูทับเบิก ภูน้ำหนาว และบางส่วนที่ภูเรือ โดยนำมาแปรรูปและทำการตลาด เริ่มทำตั้งแต่ปี 2556 มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น แมคคาเดเมียอบเกลือ, รสดั้งเดิม, แมคคาเดเมียอบพร้อมกะลา และน้ำนมแมคคาเดเมีย

นอกจากนี้ยังนำเปลือกที่เป็นของเหลือทิ้งมาแปรรูป ซึ่งในผลแมคคาเดเมีย 1 ตัน ได้เนื้อในแค่ 250 ก.ก. มีเปลือกมากถึง 750 ก.ก. จึงนำมาผ่านกระบวนการทำให้เป็นถ่านกัมมันต์อุณหภูมิสูง ด้วยเตา Activated แบบญี่ปุ่น ทำให้มีรูพรุนจำนวนมาก นำมาใช้ ดูดกลิ่นโดยเฉพาะ และใช้ดูดสารพิษในผัก ผลไม้ โดยทำเหมือนซองชา แช่ในน้ำ 2-3 ลิตร เพื่อแช่ผักและผลไม้ประมาณ 30 นาที จะช่วยดูดสารพิษและกลิ่นดิน หลังจากนั้นให้ล้างน้ำสะอาดอีกครั้งก็สามารถนำผักผลไม้มารับประทานได้ ใน 1 กล่องบรรจุ 15 ซอง ราคา 250 บาท ภายใต้แบรนด์ Mac P.Y. (Macadamia Premium for You)

พร้อมกันนั้นยังทำน้ำมันแมคคาเดเมีย เป็นน้ำมันบีบเย็น ใช้บำรุงผิว เนื่องจากมีโมเลกุลเล็กมาก จึงสามารถผลิตต่อยอดเป็นเครื่องสำอางได้








Advertisement

คุณวานุรัตน์ให้ข้อมูลว่า ยอดขายสินค้าแต่ละประเภทแตกต่างกันไป เฉพาะยอดขายแมคคาเดเมียอย่างเดียว ประมาณ 1 ล้านบาทต้นๆ ส่วนรายได้อีก 4-5 แสนบาท มาจากผลิตภัณฑ์ถ่านกัมมันต์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเดียวในโลกที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อเพิ่มมูลค่า จากแต่ก่อนใน 1 ปีต้องนำกะลาแมคคาเดเมียไปทิ้ง 10 ตัน จึงต้องการลดปัญหาจากกระบวนการผลิต โดยเรียนรู้กระบวนการทำถ่านจาก คำแนะนำของมหาวิทยาลัยนเรศวร และผ่านกระบวนการทำให้ถ่านกัมมันต์เป็น Activated Carbon ทำเป็นถ่านแช่ผักผลไม้ ได้รับความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์

สำหรับสวนแมคคาเดเมียของคุณวานุรัตน์ ปลูกหลายพันต้น ในพื้นที่ 25 ไร่ และทำเป็นศูนย์เรียนรู้แมคคาเดเมียครบวงจร ผู้สนใจสามารถไปเยี่ยมชมกระบวนการผลิตแบบ Zero Waste ได้ รวมทั้งการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างเช่น แมคคาเดเมียสำหรับรับประทาน, ถุงดูดกลิ่นในรองเท้า, ตุ๊กตาดูดกลิ่นแมคคาเดเมีย รวมถึงผงถ่านชาร์โคลใช้ล้างผักผลไม้

ประธานวิสาหกิจฯ แมคคาเดเมียเขาค้อแจกแจงว่า ใช้เวลา 5 ปี จะให้ผลผลิต และมีอายุต้นยืนยาว 80-120 ปี มีหลายสายพันธุ์ อาทิ พันธุ์ 508 พันธุ์ 741 พันธุ์ 660 และพันธุ์ 344 และพันธุ์ 246 ซึ่งเป็นพันธุ์ดี ส่วนใหญ่ที่สวนปลูกพันธุ์ 741 กับ 508 เพราะเหมาะกับสภาพอากาศและระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 700 ม.ขึ้นไป โดยใน 1 แปลง ปลูกอย่างน้อย 3 สายพันธุ์ เช่น พันธุ์ 741 หรือ 508 และควรปลูกพันธุ์ 660 เพิ่ม เพื่อเป็นตัวผสมเกสร และเพิ่มจำนวนของลูก โดยพันธุ์ 741 เป็นพันธุ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของตัวเมล็ดเรื่องความมัน ความอร่อย ส่วนพันธุ์ 508 ให้ลูกใหญ่ เหมาะกับการปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 ม.ขึ้นไป

ระยะในการปลูก 8×8 ม. หรือ 10×12 ม. เพราะต้นมีขนาดใหญ่มาก วิธีการดูแลไม่ยาก ไม่ค่อยถูกแมลงรบกวน ใช้ขี้วัวหรือขี้ไก่บำรุงช่วงต้น-ปลายฤดูฝน ต้นปีดูแลเรื่องวัชพืชที่อยู่ใต้ต้นเท่านั้น อีกทั้งต้นจะมีรากฝอยจำนวนมากอยู่บนผิวดิน จึงไม่ควรถางหญ้าบนผิวดินมาก เพราะจะทำลายรากฝอยที่เป็นตัวหาอาหาร

ทั้งนี้แต่ละพันธุ์ให้ผลผลิตไม่เท่ากัน พันธุ์ 660 และ 741 ให้ผลผลิตขนาดกลาง-ขนาดเล็ก ให้ผลดก แต่พันธุ์ 508 ออกผลไม่ดกเท่าสองพันธุ์แรก โดยแมคคาเดเมียจะออกดอกในช่วงที่อากาศหนาวเย็นตลอดปี รุ่นต่อรุ่น ในอุณหภูมิ 18 องศาเซลเซียสตลอดปี เช่น ที่ดอยวาวี จ.เชียงราย หรือภูทับเบิก แต่ถ้า 1 ปีอากาศหนาวแค่ครั้งเดียว เช่น ที่เขาค้อ หรือภูเรือ จะออกดอกเพียงแค่ปีละ 1 ครั้ง ในช่วงหน้าหนาว และเก็บเกี่ยวได้ในช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป ถ้าเก็บลูกอ่อน เมื่อเก็บมาได้ 1-2 สัปดาห์ จะเกิดเชื้อราข้างใน ไม่สามารถนำมาผ่านการกระบวนการผลิตได้ ต้องกำหนดระยะเวลาการเก็บผลผลิตประมาณ 9 เดือน จะทำให้ได้เมล็ดแก่จัด มีคุณภาพและเหมาะสมกับการผลิต ถ้าเป็นเมล็ดเล็กๆ จะรอให้ร่วงหล่นลงมาเอง

เธอว่า ส่วนใหญ่สวนของลูกไร่เป็นการปลูกแบบเกษตรปลอดภัย โรคที่พบคือโรคหนอนเจาะลูก หรือหนอนด้วง จะเจาะเข้าไปในขั้วของลูกช่วงที่ลูกยังอ่อนอายุมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ถ้ามีหนอนเจาะมากจะทำให้มีปัญหาเมล็ดแตกเวลากะเทาะ

“สภาพอากาศของเขาค้อเหมาะกับการปลูกแมคคาเดเมีย จึงมีรสชาติกลมกล่อม และมีรสชาติดีเมื่อเทียบกับที่อื่น โดยเฉพาะในกลุ่มของเราที่มีการควบคุมการผลิตตั้งแต่วันเวลาในการเก็บเกี่ยว และเมล็ดแมคคาเดเมียลงมาจากต้น เน้นเฉพาะที่มีคุณภาพ มีสีขาวนวล เม็ดเต็ม รสชาติดี ใหม่ สด กรอบถึงมือลูกค้า เรื่องราคาถ้าเทียบกับที่อื่นจะไม่หนีกันมาก โดยมีราคาสูงสุดอยู่ที่ก.ก.ละ 1,500-1,600 บาท ถือว่าให้ค่าตอบแทนที่ดี และราคาไม่ตก ราคากะลาที่ยังไม่ได้นำเมล็ดออก ซึ่งเกษตรนำมาส่งให้ราคา 100 บาทต่อก.ก. ด้วยเหตุนี้เองพืชเศรษฐกิจของเขาค้อควรจะเป็น แมคคาเดเมีย ขณะนี้จึงมีการส่งเสริมการปลูกและขยายแปลงปลูก ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมากขึ้น ส่วนราคาต้นกล้าอยู่ที่ 80-120 บาท

สนใจสินค้าของวิสาหกิจชุมชนฯ แปรรูปแมคคาเดเมียเขาค้อ ติดต่อคุณวานุรัตน์ได้ที่ 08-1017-5660 และ 08-5907-1839 หรือที่เพจเฟซบุ๊ก ‘แมคคาเดเมียเขาค้อ Mac.P.Y.’

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน