เมื่อวันที่ 2 พ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยสั้นอย่างน้อย 23 ลูก โดยมีขีปนาวุธ 1 ลูก ข้ามเส้นแบ่งมาตกใกล้น่านน้ำของเกาหลีใต้ ส่งผลให้เกาหลีใต้ตอบโต้ทันทีด้วยการปล่อยขีปนาวุธแบบอากาศสู่พื้นจำนวน 3 ลูก พุ่งไปตกในทะเลเหลืองช่วงก่อนถึงเส้นแบ่ง “แนวจำกัดตอนเหนือ” หรือเอ็นแอลแอล เส้นแบ่งน่านน้ำระหว่างเกาหลีทั้งสองชาติทำให้เกาหลีเหนือยิงตอบโต้อีกครั้งด้วยขีปนาวุธวิถีโค้งอีกหลายลูกและระดมยิงปืนใหญ่อีกกว่า 100 นัด ไปตกในเขตบัฟเฟอร์โซนฝ่าฝืนข้อตกลงสองฝ่าย

ประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ กล่าวถึงการกระทำของเกาหลีเหนือว่าการรุกรานอธิปไตยของเกาหลีใต้ ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้ ระบุว่า มีขีปนาวุธ 1 ลูก ที่พุ่งข้ามเส้นเอ็นแอลแอลเข้ามาส่งผลให้สัญญาณเตือนภัยบนเกาะอุลเลียงโดดังขึ้น และประชาชนชาวเกาหลีใต้ที่อยู่อาศัยต้องอพยพลงหลุมหลบภัย

ตอบโต้ทันที – เครื่องเอฟ-15 เค ของกองทัพอากาศเกาหลีใต้ ปล่อยขีปนาวุธแบบอากาศสู่พื้นไปที่ใกล้รอยต่อน่านน้ำพิพาทกับเกาหลีเหนือ หลังถูกเกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธยั่วยุและมีลูกหนึ่งล้ำเส้นแบ่งกลายเป็นการตอบโต้กันไปมา เมื่อ 2 พ.ย. (รอยเตอร์)

กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า ถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธข้ามเส้นแบ่งน่านน้ำพิพาทเข้ามานับตั้งแต่การลงนาม “หยุดยิง” ของทั้งสองฝ่ายทำให้สงครามเกาหลีสิ้นสุดลงชั่วคราวเมื่อปี 2496 โดยเกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธมา 14 ลูกในระลอกแรก พุ่งตกในทะเลทั้งทางตะวันออกและตะวันตกของคาบสมุทร ส่วนลูกที่ล้ำเส้นแบ่งน่านน้ำเข้ามานั้นตกห่างจากชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีใต้ไปเพียง 57 กิโลเมตร ทำให้กองทัพเกาหลีใต้ตอบโต้อย่างแข็งกร้าวทันที นับเป็นสถิติเกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธมากที่สุดในวันเดียว

พฤติกรรมก้าวร้าวของทางการเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดนี้ยังส่งผลให้เกาหลีใต้ประกาศปิดน่านฟ้าในทะเลตะวันออกหรือทะเลญี่ปุ่นชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของเครื่องบินพาณิชย์

ด้านทางการรัสเซียเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นรักษาความสุขุมเยือกเย็นและหลีกเลี่ยงขั้นตอนใดๆ ที่จะสามารถทำให้ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน