จากโรงงานอุตสาหกรรมไปถึงภายใน รถพยาบาล จากทะเลทรายร้อนระอุไปถึงสภาพหนาวเหน็บขั้วโลกเหนือ เพื่อความมั่นใจในการทำงาน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กพันธุ์อึด หรือ ทัฟบุ๊ก (Toughbook) ต่างเป็นตัวเลือกของบรรดามืออาชีพที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉินและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ให้ความเชื่อถือ และ Dell Latitude Rugged จากค่ายเดลล์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพิ่งออกแท็บเล็ต รุ่นใหม่ Latitude 7230 Rugged Extreme มาตอบสนองโจทย์นี้

แท็บเล็ตที่เชื่อถือได้รุ่นล่าสุดกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคนทำงานในสภาพแวดล้อมท้าทายที่สุดในปัจจุบันแบบพรีเมียมรุ่นนี้ สร้างมาเพื่อการทำงานภาคสนามให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลโดดเด่น ให้ความมั่นใจในช่วงเวลาสำคัญ ทั้งหมดนี้สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมสุดขั้วได้อย่างเหนือชั้น ไม่ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบใดก็ตาม

ยกตัวอย่าง นายไมก์ ลิเบ๊กกี นักสำรวจผู้ทำสารคดีให้กับ National Geographic Explorer และยังเป็น Dell Ambassador ใช้แท็บเล็ต Rugged Extreme เพื่อศึกษาผลกระทบของของไมโครพลาสติกที่มีต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่สุดขั้วของทวีปแอนตาร์กติกา เป็นต้น

เดลล์ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานภาคสนาม หรือในโรงงาน ไม่ได้หมายความว่าประสิทธิภาพด้านการทำงานต้องลดลง ในฐานะแท็บเล็ตสมบุกสมบัน (fully-rugged) ขนาด 12 นิ้ว เบาสุดและทรงพลังสุดในตลาด 7230 Rugged Extreme มาพร้อมหน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู Intel Core สูงถึง i7 เจเนอเรชั่นที่ 12 และหน่วยประมวลผลกราฟิก หรือจีพียูในตัว รุ่น Iris Xe ให้กำลังการทำงานอันทรงพลัง

ผสานคุณสมบัตินี้เข้ากับความสามารถการเชื่อมสัญญาณไร้สาย รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Wi-Fi 6E และรองรับสองช่องสัญญาณ (dual broadband) ผู้ใช้สามารถสัมผัสความเร็วในการเชื่อมต่อข้อมูลใน ขณะที่ลดการใช้พลังงานของแท็บเล็ตไปได้พร้อมกัน








Advertisement

แท็บเล็ตสมบุกสมบันรุ่นนี้เป็นการอัพเกรดระดับโลก เพื่อตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการความแข็งแกร่งทนทาน โดยในกลุ่มคน เหล่านี้ต้องการอุปกรณ์ที่สามารถไว้วางใจได้

ดังนั้น 7230 Rugged Extreme จึงไม่หยุดอยู่แค่พลังประสิทธิภาพ หากแต่ยังมาพร้อมการปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดียิ่งขึ้น ขนาดจอแสดงผลใหญ่ขึ้น และความทนทานสมบุกสมบันในแบบของแท็บเล็ต Rugged ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดี

ไม่ว่าสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร แท็บเล็ต จะให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดถึง 20 ชั่วโมง พร้อมแบตเตอรี่ 2 ก้อนแบบถอดเปลี่ยนได้ทันที (hot-swap) เพื่อการใช้งานอย่าง ต่อเนื่อง นี่คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำงานไม่ว่าในโรงงานการผลิต ในกองทัพ สำหรับบุคลากรด่านหน้า และอื่นๆ อีกจำนวนมาก

หน้าจอแสดงผลมีสัดส่วนภาพ 16:10 ที่แท้จริง ให้พื้นที่ใช้งานหน้าจอเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้ 7230 Rugged Extreme มีพื้นที่หน้าจอใหญ่ที่สุดในแท็บเล็ต rugged ขนาด 12 นิ้ว แต่นั่นจะไม่มีความหมายหากผู้ใช้มองไม่เห็นเนื้อหาที่แสดงบนหน้าจอ

เพื่อให้การทำงานเป็นไปโดยสะดวก ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลบนหน้าจอได้ท่ามกลางแสงแดด โดยหน้าจอมีค่าความสว่างสูงถึง 1,200 นิต นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานในขณะสวมถุงมือกับหน้าจอแบบสัมผัส และตอบโต้กับหน้าจอได้ด้วย

เมื่อกล่าวถึงอุปกรณ์ Dell Rugged สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือ ความทนทานสมบุกสมบัน เพื่อให้แท็บเล็ตทนทานต่อสถานการณ์หนักหน่วงมากที่สุด 7230 Rugged Extreme ผ่านการทดสอบการตกจากที่สูง (drop-test) ในระดับความสูงถึง 1.2 เมตร

ผ่านทดสอบความทนทานต่ออุณหภูมิตั้งแต่ติดลบ 6.6 ถึง 62.7 องศาเซลเซียส ได้มาตรฐานด้านการป้องกันในระดับ IP65 ที่มีการป้องกันฝุ่น สิ่งสกปรก และน้ำ และตัวเลือกเพิ่มเติมให้สามารถรองรับสถานอันตรายได้ กระทั่งในพื้นที่อันตรายสูง ก็ไม่ใช่ปัญหา

การรักษาความปลอดภัยก็ไม่ย่อหย่อน เพราะการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เรียกว่าหนักหนาสาหัส ผู้ใช้ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้มีความปลอดภัยมากเท่าที่จะเป็นไปได้เสมอ สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดคิด

แท็บเล็ต 7230 Rugged Extreme มาพร้อมเทคโนโลยี TPM 2.0 ControlVault ของเดลล์ ติดตั้งมากับตัวเครื่อง เป็นเครื่องมือพิสูจน์ตัวตนระดับแอดวานซ์ผ่านฮาร์ดแวร์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรักษาความปลอดภัยและควบคุมข้อมูลด้วยการเข้ารหัสแบบบูรณาการ

นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกเพื่อการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมในการช่วยปกป้องข้อมูลละเอียดอ่อนหรือเป็นความลับ รวมถึงเครื่องอ่านสมาร์ตการ์ดแบบสัมผัส หรือแบบไม่สัมผัส รวมถึงกล้องอินฟราเรด สำหรับการจดจำใบหน้าบน Microsoft Windows Hello และเครื่องอ่านลายนิ้วมือแบบสัมผัส

ความสามารถรอบตัวนี้เป็นกุญแจสำคัญสำหรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่คาดเดาได้ยาก นั่นเป็นเหตุผลที่เดลล์ออกแบบ พอร์ตของแท็บเล็ตให้สามารถกำหนดค่า สำหรับการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi GPS และ WWAN พร้อมกันได้ โดยยังคงประสิทธิภาพการเชื่อมต่อสัญญาณ 5G ไว้เพื่อการทำวิดีโอสตรีมมิ่ง และการแชร์ไฟล์ที่รวดเร็วขึ้น

แท็บเล็ต 7230 Rugged Extreme ยังสามารถปรับแต่งให้เข้ากับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ เช่นเดียวกับโซลูชั่น OEM ที่มาพร้อมตัวเลือกในการเพิ่มเครื่องสแกนบาร์โค้ด ตลอดจน HDMI หรือ Fischer USB หน่วยความจำสำรองแบบ NVMe SSD แบบดึงออกมาได้ ความจุสูงสุดถึง 2 เทร่าไบต์ (TB) สามารถถอดออกและสับเปลี่ยนโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานภาคสนามมากยิ่งขึ้น

ระบบนิเวศใหม่ของอุปกรณ์เสริมทำให้ 7230 Rugged Extreme เหมาะกับทุกสถานการณ์ไม่ว่ากับงานอะไร เดลล์ ระบุ ทราบดีว่าแท็บเล็ตเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพขนาดใหญ่ของการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทานสมบุกสมบัน เพื่อให้ผู้ใช้ที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์สามารถทำงานได้ราบรื่นเต็มที่

นั่นคือเหตุผลที่แท็บเล็ต 7230 Rugged Extreme มาพร้อมอุปกรณ์เสริมทั้งรุ่นใหม่และปรับปรุงใหม่ ช่วยสร้างความสมดุลในการพกพา สะดวกสบายต่อการใช้งานในเชิง สรีรศาสตร์ และความทนทาน

อาทิ แป้นพิมพ์ที่สามารถถอดได้ เชื่อมต่อโดยตรงผ่านสลักล็อกคู่ของแท็บเล็ต ให้ประสบการณ์การใช้แป้นพิมพ์ขนาดมาตรฐานอย่างสมบูรณ์ หรืออีกทางเลือกหนึ่ง ปากกา (active pen) ทำให้เกิดความยืดหยุ่นและความหลากหลายที่จำเป็น สำหรับสถานการณ์ที่ต้องการการตอบสนองรวดเร็ว ด้วยความใส่ใจต่อประสิทธิผลการทำงานดียิ่งขึ้น

อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม เช่น สายสะพายไหล่ สายคล้องมือหมุนได้ 360 องศา และที่จับแบบแข็ง ช่วยให้มั่นใจว่าแท็บเล็ตจะกลายเป็นส่วนเสริมเพื่อการทำงานที่ราบรื่นให้กับผู้ปฏิบัติงาน และความต้องการในการใช้งานต่างๆ โดยไม่ต้องยุ่งยาก

แท็บเล็ต 7230 Rugged Extreme เตรียมวางจำหน่ายทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้ โดยมีการประกาศราคารวมค่าจัดส่งแล้ว

สำหรับบริษัทที่กำลังนำอุปกรณ์ที่ทนทานสมบุกสมบันมาใช้ แท็บเล็ตสามารถใช้จัดการการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

ด้วยการบริการหลังการขายเพิ่มเติมสำหรับองค์กร เช่น การบริการซ่อมบำรุงถึงสถานที่ในวันทำการถัดไป และเครื่องมือในการคาดการณ์ประสิทธิภาพของเครื่องล่วงหน้า เพื่อช่วยวิเคราะห์ก่อนจะเกิดปัญหาของเครื่อง เป็นต้น

ทีมข่าวสดไอที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน