‘โรคหัวใจ’ ยังเป็นสาเหตุของการ เสียชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทย ซึ่งในทุกปี โรคหัวใจคร่าชีวิตผู้คนกว่า 18.6 ล้านคนทั่วโลก

โรคหัวใจหมายถึงโรคที่เกิดจากความผิดปกติของชิ้นส่วนหัวใจที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ ซึ่งความผิดปกติที่เกิดขึ้นในแต่ละชิ้นส่วนของหัวใจนั้น ทำให้โรคหัวใจมีอาการแตกต่างกันและสามารถแบ่งได้หลากหลายชนิด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด

โดยเฉพาะโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด คือทุกข์ของพ่อ-แม่และคนในครอบครัว

มูลนิธิรามาธิบดีฯได้มีโอกาสสานต่อ ‘สะพานแห่งการให้’ เข้าช่วยเหลือสองครอบครัวหัวใจแกร่งที่อยู่เคียงข้างลูกเพื่อต่อสู้กับ โรคหัวใจตั้งแต่แรกเกิด

โดยคุณจารุณีแม่ของ ‘น้องน้ำฝน-นัทนพิน’ ลูกสาววัย 1 ขวบเศษ กล่าวว่า ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไง…แม่ก็รัก หัวใจของแม่ พร้อมสละทุกอย่าง แม่ยังมีความสุข และรักลูกเหมือนเดิม ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไง

เมื่อคุณจารุณีรู้ว่าลูกสาวเป็นโรคหลอดเลือดที่ขั้วหัวใจที่เป็นทางลำเลียงเลือดไปปอด (หลอดเลือดแดงพัลโมนารี) ตีบตั้งแต่กำเนิด โรคลำไส้อุดตัน และมีอาการดาวน์ซินโดรม แต่คุณแม่ไม่เคย ถอดใจ เฝ้าดูแล และคอยอยู่เคียงข้างลูกน้อยเสมอ

“เริ่มแรกน้องมีอาการตัวเขียวตั้งแต่หลังคลอดเพราะไม่สามารถหายใจเองได้ จึงถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีตั้งแต่น้องอายุได้เพียง 2 วัน คุณหมอตรวจพบว่าน้องเป็นโรคหลอดเลือดที่ขั้วหัวใจที่เป็นทางลำเลียงเลือดไปปอดตีบ ลำไส้อุดตัน และดาวน์ซินโดรมตั้งแต่กำเนิด จึงเข้ารับการรักษาด้วยการสวนหัวใจถึง 2 ครั้ง และผ่าตัดลำไส้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา น้องก็มีโอกาสเข้ารับการผ่าตัดหัวใจเพื่อตัดต่อเส้นเลือดบริเวณที่ตีบให้หมุนเวียนเลือดได้ดีขึ้น หลังเข้ารับการรักษาแม่ก็สังเกตได้ว่าน้องเริ่มมีอาการหายใจดีขึ้นและสุขภาพแข็งแรงขึ้นกว่าแต่ก่อน”

คุณจารุณีบอกด้วยว่า สำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาน้อง แม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้บริจาค ที่ได้มอบผ่านมูลนิธิรามา ธิบดีฯ ตนรู้สึกอุ่นใจที่น้องได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพราะคุณหมอตรวจอาการน้องอย่างละเอียดและมีทีมพยาบาลคอยดูแลน้องอย่างดี และปัจจุบันน้องน้ำฝนยังคงเข้ารับการรักษาและติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

ขณะที่ ส.อ.(ญ.)อรทัย คุณแม่ของ น้องการ์ตูน-ธีริศรา ผ่านการผ่าตัดหัวใจมาหลายต่อหลายครั้ง บอกว่า “คุณแม่บอกกับน้องเสมอว่าเราจะสู้ไปด้วยกัน เพื่อให้พวกเราได้อยู่ด้วยกัน”

แม้ว่าจะผ่านการผ่าตัดหัวใจมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ น้องการ์ตูนและครอบครัวก็พร้อมที่จะจับมือกันก้าวผ่าน ช่วงเวลานั้นไปด้วยกันเสมอ

โดยน้องการ์ตูนเข้ารับการรักษาโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิดชนิดเขียว ซึ่งหมายถึงภาวะที่มีความผิดปกติของหัวใจ และหรือหลอดเลือดที่เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ส่งผลให้น้องการ์ตูนต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจครั้งแรกขณะอายุได้เพียง 10 วัน เพื่อเพิ่มปริมาณเลือดไปที่ปอดเพราะภาวะการไม่มีหลอดเลือดจากหัวใจเชื่อมไปยังปอด และน้องยังต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องและถูกติดตามอาการอย่างใกล้ชิดที่ โรงพยาบาลรามาธิบดีตั้งแต่แรกคลอดนานถึง 4 เดือน

ภายหลังจากที่น้องการ์ตูนต่อสู้กับโรคหัวใจมานานกว่า 13 ปี พายุร้ายของครอบครัวอาชาฤทธิ์ก็ยังไม่ผ่านพ้นไป เพราะในปี 2561 น้องการ์ตูนต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ

ส.อ.(ญ.)อรทัยกล่าวว่า คุณหมอบอกกับคุณพ่อคุณแม่ ว่าการผ่าตัดครั้งนี้มีความเสี่ยงสูงมาก ขอให้แม่ทำใจไว้ว่าน้องอาจไม่ได้อยู่กับคุณแม่แล้ว แต่คุณแม่และครอบครัวก็ไม่ถอดใจจึงตัดสินใจให้น้องการ์ตูนพักการเรียนชั่วคราวเพื่อเข้ารับการรักษาอย่างเต็มที่ แม่คอยให้กำลังใจน้องการ์ตูนอยู่เสมอ

และถือเป็นข่าวดีที่เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาการเข้ารับการผ่าตัดสวนหัวใจเพื่อปิดรอยรั่วหัวใจของน้องการ์ตูนผ่านพ้นไปได้ ด้วยดีและยังอยู่ระหว่างการพักฟื้น แม้จะต้องลดกิจกรรมหรือการออกกำลังกายลงบ้าง แต่น้องการ์ตูนยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และหลังจากนี้น้องการ์ตูนยังมีอีกหนึ่งภารกิจในการ เตรียมตัวที่จะเข้ารับการรักษาอาการหลังคดซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากโรคหัวใจต่อไป โดยทั้งคุณแม่และคุณพ่อก็พร้อมอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจน้องการ์ตูนอย่างไม่ย่อท้อ

ทั้งนี้การรักษาโรคหัวใจโดยบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตให้แก่ผู้ป่วย โดยในเคสของน้องน้ำฝนและน้องการ์ตูนนี้ทั้งคู่อาจโชคร้ายที่เกิดมาพร้อมโรคประจำตัวและต้องเข้ารับการรักษาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัวที่แน่นเเฟ้นก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ทั้งคู่ก้าวผ่านอุปสรรคนี้มาได้

ขณะที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ ยังคงสานต่อ ‘สะพานแห่งการให้’ ผ่านการทำหน้าที่ระดมทุนเพื่อจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพสูงและทันสมัย ควบคู่ไปกับ ‘โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้’ หนึ่งในโครงการของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่พึ่งให้ผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีและมีประสิทธิภาพ

เราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ “การให้” เพื่อเพิ่มโอกาสต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยที่ยังรอคอยความช่วยเหลือ ผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ ณ สำนักงานมูลนิธิรามาธิบดีฯ หรือโอนเงินผ่านบัญชี มูลนิธิรามาธิบดี ธนาคารกรุงเทพ 090-3-50015-5 ธนาคารกสิกรไทย 879-2-00448-3 ธนาคารไทยพาณิชย์ 026-305216-3 และบริจาคออนไลน์ www.ramafoundation.or.th

#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน