เมื่อวันที่ 27 พ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุผู้ชุมนุมชาวจีนจำนวนมากเดินขบวนประท้วงในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เรียกร้องให้ทางการจีนยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อกวาดล้างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ตามยุทธศาสตร์ ไดนามิก ซีโร่-โควิด ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำค้ำฟ้าของจีน

รายงานระบุว่า มีผู้ชุมนุมบางส่วนตะโกนให้ประธานาธิบดีสีและพรรคคอมมิวนิสต์จีนลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วย ท่ามกลางการจับตาของประชาคมโลกซึ่งเปลี่ยนมาใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 แล้ว ทำให้จีนกลายเป็นชาติเดียวในโลกที่ยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อกวาดล้างการระบาด

การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์ที่นครอุรุมชี เมืองเอกมณฑลซินเกียง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย โดยชาวบ้านกล่าวโทษมาตรการล็อกดาวน์เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เสียชีวิตไม่สามารถหนีออกมาได้ทันแต่ทางการจีนยืนกรานปฏิเสธ สร้างความเดือดดาลให้ชาวจีน

เหลืออด – ผู้ชุมนุมต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ที่บริเวณพิธีวางดอกไม้ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์นครอุรุมชี มณฑลซินเกียง ที่นครเซี่ยงไฮ้ บางส่วนตะโกนให้ประธานาธิบดีสีลาออกด้วย เมื่อ 27 พ.ย. (รอยเตอร์)

คลิปวิดีโอบนโลกออนไลน์เผยให้เห็นผู้ชุมนุมบนถนนอุรุมชีของนครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักใจกลางเมืองเผยให้เห็นบรรยากาศการประท้วงเป็นไปอย่างดุเดือดและมีบางคนตะโกนว่า “สีจิ้นผิง ลาออกไป! พรรคคอมมิวนิสต์จีนลาออกไป!” นับเป็นพฤติกรรมท้าทายอำนาจของรัฐบาลกลางที่หาพบได้ยาก เนื่องด้วยความพยายามควบคุมโลกไซเบอร์ของทางการจีน

การประท้วงยังเกิดขึ้นในสถานที่อื่นด้วย อาทิ การชุมนุมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์นครอุรุมชีตามสถานอุดมศึกษาทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่นำดอกไม้มาวางไว้อาลัยและมีการกระทบกระทั่งกันประปรายระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านความเคลื่อนไหวของทางการจีนนั้นพยายามปิดกั้นเนื้อหาและการสนทนาเกี่ยวกับการประท้วงที่เกิดขึ้นแทบจะในทันทีด้วยการเซ็นเซอร์คำบนแพลตฟอร์มสนทนาเว่ยโป๋

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน