เห็นโพลประเภท สำรวจความนิยมของคนไทยส่วนใหญ่ พอใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ามีความสามารถในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในชาติให้สงบลงได้ โดยเป็นโพลที่เพิ่งออกมาเมื่อไม่นานมานี้
ดูแล้วที่สงสัยกันว่า การตัดสินใจเล่นการเมืองต่อของพล.อ.ประยุทธ์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะเอาจุดไหนมาขาย
สงสัยจะเอาแนวเดิมๆ คือ เลือกความสงบจบที่ ลุงตู่!?
นั่นคือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว อาจจะทำให้คนเชื่อได้
แต่มาถึงวันนี้แล้ว จะบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์คือคนแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ ทำให้บ้านเมืองสงบได้ จะมีคนเชื่ออยู่อีกหรือ
ทั้งนี้เพราะได้ตกเป็นคู่กรณีกับฝักฝ่ายต่างๆ มากมาย กลายเป็นคู่ขัดแย้งไปอย่างเต็มตัวแล้ว!
ในช่วง 2-3 ปีก่อน มีม็อบเด็กรุ่นใหม่ออกมาเต็มบ้านเต็มเมือง
ต่อต้านขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
Advertisement
ดีที่มีโควิดระบาดหนัก ประกอบกับการใช้มาตรการทางกฎหมาย จับกุมคุมขังแกนนำไปมากมาย ทำให้การประท้วงซาลงไป
แต่ไม่ใช่สงบ หรือจบไปแล้ว จำนนไปแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์กับคนรุ่นใหม่ ยังเป็นปัญหาคุกรุ่นที่อาจจะปะทุขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้
ขณะเดียวกัน การเลือกเข้าเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เต็มไปด้วยแกนนำม็อบกปปส.
ยิ่งเป็นการยืนยันภาพเหตุการณ์ประท้วงใหญ่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 2556-2557
แล้วทำทุกอย่างเพื่อให้กลายเป็นเงื่อนไขให้พล.อ.ประยุทธ์เข้ามายึดอำนาจการปกครอง!
ตอนรัฐประหารก็อ้างว่าเพื่อยุติความขัดแย้งรุนแรง ไม่ให้บานปลายกลายเป็นสงครามระหว่างสี
แต่คนจำนวนมาก มองออกว่า เป็นเกมช่วงชิงอำนาจ ที่เล่นกันคนละบท ภายใต้ผู้กำกับเดียวกัน
ตอนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจใหม่ ม็อบกลับไม่ยอม อ้างว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง นั่นคือทำให้บ้านเมืองเข้าทางตันก็เข้าทางทหาร
8 ปีมาแล้ว มีการปฏิรูปการเมืองอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งเป็นคำตอบว่าทำไมม็อบกปปส.ไม่ยอมให้เลือกตั้งใหม่ในตอนนั้น
แล้ววันนี้เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ย้ายพรรคมาอยู่กับพรรคแกนนำนกหวีด ก็คือย้อนภาพเหตุการณ์ อธิบายเบื้องหน้าเบื้องหลังเมื่อปี 2557 ยืนยันการรวมกันเป็นฝักฝ่ายเดียวกัน
ไม่ใช่คนกลางที่เข้ามารักษาความสงบให้บ้านเมืองหมดความขัดแย้งอะไรไม่
ถ้าจะชู เลือกประยุทธ์เพื่อความสงบของบ้านเมือง น่าจะขายได้ยากแล้ว!