วันที่ 4 ธ.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหา นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ จัดฉากให้คนมาถ่ายรูปเด็กกำลังพี้กัญชาที่ริมชายหาดพัทยาต้องการให้มีประเด็นการเมือง ว่า คงไม่มีใครปัญญาอ่อนไปจัดฉากซื้อบ้องกัญชามาให้เด็กพี้ เพื่อเอามาเป็นประเด็นห้ำหั่นกันทางการเมือง นักการเมืองที่ดี มีจิตสำนึก ไม่มีใครทำกันอย่างแน่นอน แค่คิดก็แย่มากแล้ว และกรณีเด็กพี้กัญชาเริ่มต้นมาจากการนำเสนอข่าวมาจากสื่อมวลชน นพ.บัญญัติ ในฐานะ ส.ส.ที่ติดตามเรื่องนี้ก็นำแถลงเพื่อหาทางแก้ปัญหา
“เรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยต้องหาหลักฐานมาว่า นพ.บัญญัติ จัดฉากอย่างไร ทำด้วยวิธีการไหน ให้เวลา 7 วัน ถ้า 7 วันหาหลักฐานไม่ได้คนพูดก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ การกล่าวหากันเช่นนี้ในทางการเมืองเสียหายมาก การกล่าวหา นพ.บัญญัติ ชัดเจนว่าเพื่อเป็นข้ออ้างข้อแก้ตัวให้นโยบายกัญชาเสรี ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมส่วนรวมที่ปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวและว่า การอ้างว่าถ้าอยากให้ปัญหาหมดไปพรรคประชาธิปัตย์ต้องผ่านร่างกฎหมายกัญชาฯ คำพูดย้อนแย้งในตัว นาทีก่อนบอกว่าจัดฉาก นาทีต่อมาก็รับว่ามีปัญหา
นายราเมศกล่าวว่า พอจะแก้ก็โยนมาที่พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งๆที่เรื่องนี้มีหลายฝ่ายท้วงติง ในส่วนประชาธิปัตย์นั้นได้ท้วงติงให้จัดทำร่างกฎหมายออกมาให้รอบคอบรัดกุม ถึงพยายามบอกว่ากฎหมายที่ร่างมานั้นยังไม่มีการควบคุมการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน ร่างกฎหมายยังไม่มีมาตราไหนควบคุมอย่างรอบคอบ ถ้าปล่อยให้ผ่านไปเยาวชนคนไทยจะเป็นอย่างไรในอนาคต นี่คือความห่วงใย จึงอยากให้นักการเมืองทุกคนตระหนัก การยอมรับปรับแก้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่ใช่เรื่อง น่าละอาย หากปล่อยให้ร่างกฎหมายผ่านวันข้างหน้าเดินไปตรงไหนก็เห็นแต่เด็กและเยาวชนสูบกัญชา มีผลกระทบต่อสังคม คนที่ทำหน้าที่ออกกฎหมายจะละอายใจมาก ยกเว้นนักการเมืองที่ไม่มีจิตสำนึกก็จะหาข้ออ้างไปเรื่อย ย้ำว่าเรื่องกัญชาเสรี นักการเมืองอย่านิ่งดูดาย
นายราเมศ กล่าวว่า ในทางการเมืองประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยต้องต่อสู้กันอยู่แล้ว ไม่ควรมาท้าทาย เพราะหลักการต่อสู้ต้องอยู่ภายใต้ครรลองของระบบประชา ธิปไตย ต่อสู้กันด้วยหลักสุจริต ด้วยนโยบายที่ดี ท้ายที่สุดเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ
