‘เลกซัสอีเอส’สปอร์ตหรูแดนปลาดิบ ระบบไฮบริดใหม่แรงจี๊ดจ๊าดสะใจ-นั่งนิ่มนวล

ไม่บ่อยครั้งนัก ที่ได้ทดสอบรถยนต์ระดับหรูจากแดนปลาดิบ ‘เลกซัส’ ด้วยเพราะมีรถน้อยรุ่น ทำให้มีรถทดสอบจำนวนน้อยตามไปด้วย และยังจัดกิจกรรมไม่บ่อยครั้งนัก

แต่ล่าสุดทีมงานเลกซัส ประเทศไทย ส่งจดหมายเชิญมาเพื่อร่วมทดสอบบนเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มีหรือที่จะยอมพลาด ตอบตกลงไปในทันที

เลกซัสเข้ามาทำตลาดบ้านเราเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ได้รับการกล่าวขวัญว่านอกจากจะหรูหราแล้ว ยังเนี้ยบในทุกมิติ ตามแบบฉบับของชาวอาทิตย์อุทัย

ในทริปนี้มีรถยนต์เลกซัสมาให้ทดสอบครบทุกรุ่นที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ได้ขับเจ้า เลกซัส อีเอส เอฟ สปอร์ต (Lexus ES F SPORT) ที่ตกแต่งเติมเต็มอารมณ์สปอร์ต

ช่วงแรกให้น้องที่ร่วมคันทดสอบกันไป เพราะเล็งไว้แล้วว่าจะไปทดสอบในช่วงสุดท้าย จากจ.ตาก ต่อเนื่องจ.ลำปาง จนถึงจ.เชียงใหม่

ด้วยความชอบส่วนตัวกับถนนเส้นนี้ โดยเฉพาะช่วงดอยขุนตาล ที่เป็นเส้นขึ้นเขาและ คดโค้ง วัดกำลัง และสมรรถนะของช่วงล่าง ถ้าเป็นรถดี จากความยากจะกลายเป็นขับสนุกในทันที

ก่อนออกเดินทาง เดินวนดูรอบคัน Lexus ES F SPORT บ่งบอกสายพันธุ์ F SPORT ด้วยกระจังหน้าลายตารางที่ขึ้นรูปอย่างประณีต สีดำ ไฟหน้า LED แบบ 3-eye ดีไซน์ใหม่ รูปทรงกะทัดรัด แต่ให้ประสิทธิภาพสูง

เส้นสายรอบคันคมกริบ แสดงกล้ามมัดที่ล่ำสัน ไฟท้ายรูปตัว L ตอกย้ำอัตลักษณ์ความเป็น Lexus

เดินอ้อมไปนั่งที่เบาะหลัง พื้นที่วางขามีมาให้เหลือเฟือ เบาะนั่งหนังนุ่มสบายรองรับหลังและต้นขา

มีช่องแอร์เล็กๆ 2 ช่อง บริเวณหลังคอนโซลกลาง และที่ชาร์จไฟแบบ USB 2 จุด และเสียบปลั๊กบ้านอีก 1 จุด

ออกเดินทางช่วงแรก ต้องผ่านการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น น้องที่ทดสอบต้องหลบหลีกไปมาเป็นพัลวัน

แต่ไม่ได้มีแรงเหวี่ยงให้ได้รู้สึก รวมถึงผ่านหลุม บ่อ คอสะพาน แทบไม่มีแรงสะท้านขึ้นมาถึงเบาะนั่ง ด้วยระบบกันสะเทือนหลังแบบดับเบิล วิชโบน พร้อมระบบซับแรงกระแทกประสิทธิภาพสูง นิ่มนวลจนชวนให้เคลิ้มแทบตลอดทาง

ออกนอกเมืองขึ้นสายเอเชีย น้องคนขับเริ่มขยับความเร็ว ก็รู้ละว่าเร็วแต่ไม่นึกว่าจะทะลุ 180 ก.ม.ต่อช.ม. ไปแล้ว

ด้วยช่วงล่างที่นิ่งเนียนกริบ เสียงลมหรือล้อที่บดถนนแทรกเข้ามาในห้องโดยสารน้อยมาก

ได้เวลาขึ้นตำแหน่งผู้ขับขี่ สะดุดตากับมาตรวัดแบบ F SPORT มองเห็นชัดเจน โดดเด่นด้วยวงแหวนรอบจอ multi-information TFT ขนาดใหญ่

หน้าจอกลางขนาดใหญ่ระบบสัมผัส รองรับความบันเทิงเต็ม รูปแบบ

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เดินด้ายแดงดีไซน์สปอร์ต พร้อมโลโก้ F SPORT มีปุ่มปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ ประหยัด ปกติ หรือสปอร์ต

แต่เหมือนใช้งานได้ไม่สะดวกนัก เพราะอยู่ที่คอนโซลหน้า เหนือมาตรวัด หลังพวงมาลัย ทำให้ต้องละมือจากพวงมาลัย แล้วเอื้อมออกไปเมื่อต้องการใช้งาน

เบาะนั่งคู่หน้าแบบ F SPORT ดีไซน์เฉพาะ สีแดงสลับดำ สไตล์สปอร์ตคูเป้ โอบกระชับ

กำลังจากระบบไฮบริดใหม่ที่ทำงานผสานกันระหว่างเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า

จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงได้แรงขนาดนั้น ทั้งการออกตัวที่ จี๊ดจ๊าดสะใจ ไหลลื่นต่อเนื่องไปจนถึงความเร็วปลาย รวมถึงเวลา คิกดาวน์เพื่อเร่งแซง ไม่ต้องแอบลุ้นให้เหนื่อยใจ

ถึงทางขึ้นดอยขุนตาล มุ่งหน้าสู่จ.เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 75 ก.ม. ทางขึ้นเขาและคดโค้งตลอดเส้นทาง ดีว่าเป็นถนนคอนกรีตฝั่งละ 2 เลน บางช่วงมี 3 เลน

ยิ่งเจ้า Lexus ES F SPORT ที่มีทั้งพละกำลังและจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วยรักษาสมดุล เสถียรภาพของตัวรถได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถซอกแซก ซ้าย-ขวา หลบหลีกรถช้าที่อยู่ด้านหน้าได้สบายๆ

พวงมาลัยที่คมกริบ ควบคุมตัวรถไปในทิศทางได้อย่างใจ แม้แต่โค้งหักศอกบนเนินชันก็ไม่มีอาการหน้าดื้อ ท้ายดิ้นให้ต้องหวั่นใจเลยแม้แต่น้อย

แวะไปพิสูจน์ความหรูหราที่มาพร้อมความแรงของเจ้า Lexus ES F SPORT ได้ที่โชว์รูม เลกซัสทุกแห่งได้แล้วตั้งแต่วันนี้

ส่วนจะคุ้มค่า คุ้มราคากับค่าตัว 4.38 ล้านบาท หรือไม่อย่างไร ตรงนี้ต้องพิจารณาด้วยตัวเอง

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ