เช็กอิน‘มิลาน-เจนัว’อิตาลี สุดยอดเมืองแห่งศิลปะโลก

งานมอเตอร์ไซค์โชว์ อิ๊กม่า (EICMA 2022) ที่ใหญ่ และจัดมายาวนานที่สุดในโลก กว่า 100 ปี ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ปิดฉากไปเมื่อช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา

มีโอกาสได้เข้าร่วมในครั้งนี้ จากการเชิญชวนของ “คุณฝน” มนสิชา สังข์สุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป สายงานสื่อสารการตลาด ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง ผู้ผลิต และจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ “ฮอนด้า” พี่ใหญ่ค่ายสองล้อในบ้านเรา

เสร็จภารกิจจากงาน อิ๊กม่า ไม่พลาดที่จะไปสัมผัสบรรยากาศเมืองมิลาน ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองผู้นำแห่งแฟชั่นของโลก เป็น หนึ่งใน 4 สถานที่จัดงานแฟชั่นวีก เป็นเมืองสำคัญทางภาคเหนือ และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากกรุงโรม

สถานที่แรกที่ไปเยี่ยมชม อนุสาวรีย์เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo Da Vinci) ศิลปินเอกอุชาวอิตาลี เจ้าของผลงานภาพวาดระดับโลก โมนาลิซ่า และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากการเป็นศิลปินแล้ว เลโอนาร์โด ดา วินชี ยังเป็นนักประดิษฐ์ นักออกแบบ นักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ นักดนตรี จนได้รับการขนานนามว่า เป็นพหูสูต แห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (เรอเนซองส์)

อนุสาวรีย์เลโอนาร์โด ดา วินชี ตั้งอยู่ที่จัตุรัสเดลลา สกาลา เด่นสง่า ด้านล่างรายล้อมไปด้วยเหล่าศิษยานุศิษย์อันเป็นที่โปรดปราน และมากความสามารถในแต่ละสาขา จำนวน 4 คน

เบื้องหลังเป็นอาคารศูนย์การค้ากัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล ที่ ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าที่หรูหราแห่งเมืองมิลาน และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1867 โครงสร้างเหล็กโคมแก้ว ตกแต่งด้วยโมเสกทั้งที่ผนัง และพื้นทางเดิน งดงามวิจิตรบรรจงอย่างมาก

ตลอดสองข้างทางภายในอาคาร มีร้านค้าแบรนด์เนม รวมถึงร้านอาหาร ร้านขนม ร้านไอศกรีม ระดับพรีเมียม ไว้คอยต้อนรับนักช็อปให้ได้เพลิดเพลินกันเต็มที่

ยกตัวอย่างที่คุ้นหูคุ้นตาสาวกเมืองไทย เช่น Prada, Versace, Louis Vuitton, Christian Dior, Findi, Channel เป็นต้น แน่นอนว่าหลายแบรนด์ก่อกำเนิดที่ประเทศอิตาลีนั่นเอง

สุดทางเดินศูนย์การค้าแห่งนี้ จะได้พบกับจัตุรัสหน้ามหาวิหารดูโอโม ซึ่งเป็นวิหารแบบกอธิกขนาดใหญ่ติดอันดับโลก ก่อสร้างเมื่อปี 1386 ใช้เวลาในการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์กว่า 500 ปี

เป็นอาคารที่งดงามในด้านสถาปัตยกรรม ประณีตละเอียดอ่อนในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะผนังอาคาร ประตู รวมถึงศิลปะปูนปั้น และรูปสลักหินอ่อน ที่ตกแต่งโดยรอบ ขณะที่สัญลักษณ์อันโดดเด่นคือยอดแหลม มีจำนวนทั้งสิ้น 135 ยอด ทำให้มหาวิหารแห่งนี้มีชื่อเล่นว่า วิหารเม่น

หันหลังให้มหาวิหารดูโอโม จะพบกับ อนุสาวรีย์กษัตริย์ Vittorio Emanuele II ทรงม้าสีเขียว เป็นสง่าอยู่กลางจัตุรัส แห่งนี้

ถนนในเมืองมิลาน นอกจากรถยนต์ ที่วิ่งกันขวักไขว่แล้ว ยังมีรถรางใช้ถนนร่วมกัน หลากรูปแบบ หลายสีสัน ที่สำคัญดูเหมือนจะมีอภิสิทธิ์เหนือกว่ารถเก๋ง เพราะต้องหยุดให้รถรางผ่านไปก่อนเสมอ

ทีมงานไทยฮอนด้า ยังได้พาผู้สื่อข่าวจากเมืองไทย ไปชมเมืองเจนัว ใช้เวลาเดินทางจากมิลานพักใหญ่ ถึงเจนัว Piazza De Ferrari

ลานน้ำพุขนาดใหญ่ กลางจัตุรัส ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ที่นักท่องเที่ยวต้องมาแวะถ่ายรูป เช็กอินแสดงให้เห็นว่ามาถึงเมืองเจนัวแล้ว

มองไปทั้ง 4 ด้านของลานน้ำพุ รายล้อมไปด้วยอาคารโบราณ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานรัฐบาล ธนาคาร โรงละคร โอเปร่า รวมถึงวังเก่า

ถ่ายรูปกับน้ำพุ และอาคารโบราณโดยรอบจนหนำใจ ซึ่งใช้เวลาพอสมควร เพราะหันไปทางไหน ก็ดูกิ๊บเก๋ เหมาะที่จะถ่ายรูปไปเสียหมด

ใกล้กับจัตุรัสลานน้ำพุ มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ นั่นคือ บ้านของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ชาวอิตาลี นักสำรวจ นักเดินเรือนักทำแผนที่ และพ่อค้า

นักสำรวจทางทะเล เดินเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งส่งผลให้คนยุโรปรู้จักทวีปอเมริกา หรือโลกใหม่ในความคิดชาวตะวันตก และเข้าไปหาจับจองเป็นอาณานิคม

แต่บอกก่อนนะว่า ไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง เพราะเป็นบ้านที่อยู่อาศัยจริงๆ และทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ขณะที่ ด้านในทำเป็นพิพิธภัณฑ์

ย้อนกลับมาเส้นเดิม ผ่านลานน้ำพุอีกครั้ง ตรงไปถนนหลักของเมืองเจนัว Via XX Settmbre ที่ทอดยาวตลอดสองข้างทางถนนแห่งนี้ เต็มไปด้วยร้านรวงแบรนด์สินค้าชั้นนำ คุ้นหู คุ้นตานักช็อป รวมถึงร้านสตรีตแฟชั่น แบรนด์อิตาลี ไว้ให้เลือกซื้อหลากหลายแบรนด์

เดินไปได้ครึ่งทาง เจอกับตลาดสด อดใจไม่ได้ที่จะเข้าไปลองชม เสียดายว่าเวลาค่อนข้างเย็นไปหน่อย ตลาดวายไปพอสมควร

แต่ยังพอมีร้านอาหารสด ไม่ว่าจะเป็นเห็ดต่างๆ บางแผงมีเห็ดทรัฟเฟิลสด ที่ทั้งได้รับความนิยม ว่าเป็นของหรู และมีราคาแพงวางขายด้วย หรือจะเป็นผลไม้เมืองหนาวหลากสีสัน และที่ขาดไม่ได้คืออาหารทะเลสด ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อ เพราะเจนัวเป็นเมืองท่าสำคัญ มีทะลล้อมรอบ

แม้การเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวของทั้ง 2 เมืองในอิตาลี ครั้งนี้ จะมีเวลาไม่มากนัก แต่ทุกจุดที่แวะ ล้วนมีสิ่งที่น่าสนใจ และงดงามเสมอ

ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม ใครหลายคนที่เคยไปเยือน แอบหลงรักดินแดนแห่งนี้ได้ไม่ยาก

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ