กลุ่มประชาชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ยื่นหนังสือถึงนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย

ตัวแทนชาวบ้านระบุสาเหตุที่ต้องเดินทางมา ทวงถามถึงทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง เพราะการแก้ปัญหาล่าช้า สร้างผลกระทบต่อชาวบ้าน โดยเฉพาะเรื่องการทำมาหากินเลี้ยงปากท้อง

เนื่องจากไม่สามารถกลับขึ้นไปทำกินที่บ้าน บางกลอยบน หรือใจแผ่นดิน เพื่อทำไร่หมุนเวียน ปลูกข้าว ดำเนินวิถีชีวิตในถิ่นอาศัยดั้งเดิมอย่างเกื้อกูลพึ่งพิงธรรมชาติ และหากปัญหายังไม่ถูกแก้ ชาวบ้านจำเป็นต้องกลับไปทำกินในป่าใจแผ่นดิน

อีกปัญหายืดเยื้อเกือบ 30 ปี ตกทอดมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน

ตั้งแต่ปี 2539 ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยบน หรือใจแผ่นดิน ถูกอำนาจรัฐบังคับให้อพยพ ลงมาอยู่ในชุมชนบ้านบางกลอยล่าง ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน

โดยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจัดสรรที่ดินอยู่อาศัยและทำกินให้ แต่ปรากฏว่าพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการทำกิน ไม่สามารถทำกินได้ตามวิถีชาติพันธุ์ดั้งเดิม หลายชีวิตหลายครอบครัวล่มสลาย ชาวบ้านส่วนหนึ่งจึงเดินทางกลับใจแผ่นดิน

ต่อมาปี 2554 เจ้าหน้าที่เผาบ้านไล่รื้อบังคับออกจากป่าอีกครั้ง นำมาสู่การฟ้องร้อง รวมถึงการ เสียชีวิตของนายทัศน์กมล โอบอ้อม หรืออาจารย์ป๊อด และนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำ ชาวบ้าน

จากนั้นต้นปี 2564 ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกลับใจแผ่นดินอีก แต่ก็ถูกจับกุมอีกเช่นกัน ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอัยการ

การออกมาทวงถามครั้งล่าสุดนี้ ชาวบ้าน บางกลอยมีข้อเสนอถึงคณะกรรมการฯ ให้ประสานไปยังอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องกลุ่มชาวบ้าน 30 คน โดยเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

ประการสำคัญคือขอให้ชาวบ้านได้กลับคืนถิ่นอาศัยดั้งเดิม รวมถึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านรังวัดพื้นที่ไร่หมุนเวียนบางกลอยบน ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการฯ

ข้อเรียกร้องดังกล่าวสอดคล้องกับผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เสนอแนะรัฐบาลคืนสิทธิชาวบางกลอยกลับใจแผ่นดิน

ปัญหานี้ยิ่งปล่อยเนิ่นนานเท่าไหร่ ผลกระทบยิ่งตกสู่ชาวบ้านมากขึ้นเท่านั้น

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน