ความเลวร้ายของแก๊งหลอกลวงโอนเงิน นับวันยิ่งมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น เพราะแก๊งอุบาทว์เหล่านี้มันไม่เลือกเป้าหมายที่จะลงมือ คนรวย คนจน คนหาเช้ากินค่ำมันเอาหมด แม้แต่เด็กนักเรียนที่ตั้งใจหารายได้ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ มันก็ไม่เว้น

ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ร.ต.อ.นิพล ภูธฤทธิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบเหตุ คนผูกคอตายในป่ารกร้าง ในซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 34 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด

ที่เกิดเหตุพบศพนายอาทิตย์ พวงมาลี อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใช้เชือกไนลอนผูกคอตัวเองกับกิ่งไม้ ทิ้งโทรศัพท์และจดหมายที่เขียนทิ้งไว้ ระบุข้อความว่า “ขอโทษแม่ ที่แอบขโมยเงินไปแบบนี้ ถ้าอยากรู้เรื่องต่อให้เปิดดูในโน้ต และไปดูในไลน์ เพราะมันเป็นความโลภของผมเอง”

ต่อมาทางญาติได้เปิดดูข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตจากการอ่านข้อมูลในโน้ตที่ผู้เสียชีวิตบันทึกไว้ระบุข้อความว่า “ขอโทษแม่กับพ่อด้วย ที่ทำแบบนี้ผมโลภเอง อยู่ไปก็คงไม่ได้มีอะไรดีขึ้นหรอก แต่ถ้าผมตายแล้วให้เข้าไปดูในไลน์ แล้วจับให้ได้ดันข่าวให้เป็นถึงที่สุดเพราะว่าคนแบบนี้มีเยอะเกินไปขอให้เคสผมเป็นเคสที่มีไว้บอกเด็กเป็นอุทาหรณ์นะครับว่าอย่าไปเชื่อคนพวกนี้มาก ละก็ถ้าได้เงินจากพวกมันแล้วก็ขอให้ก็เรียกเก็บเยอะๆ นะแล้วเอาไปซื้อบ้านใหม่”

จดหมายสั่งเสีย

นายสมัย ก้านแก้ว อายุ 64 ปี พ่อเผยว่า ลูกชายหายออกจากห้องพักไปก่อนเที่ยงคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงสายก็ยังตามหาไม่พบ จึงตัดสินใจให้แม่เดินทางออกไปแจ้งความ โดยระหว่างนั้นตนเองได้เดินเข้าไปรดน้ำผักที่ปลูกไว้ในป่า ก็พบเห็นลูกยืนอยู่ข้างต้นไม้ ยังพูดกับลูกว่ามายืนทำไมตรงนี้ ลูกไม่ตอบจึงเดินเข้าไปจับตัวพบว่าตัวลูกนั้นแข็งแล้ว ขณะนั้นถึงกับเข่าทรุดทันทีที่เห็นลูกชายผูกคออยู่กับต้นไม้

น.ส.สุทธินี สวัสดิ์มูล อายุ 22 ปี พี่สาว ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า หลังจากได้อ่านข้อความในโน้ตที่น้องเขียนไว้ รวมถึงเปิดดูไลน์มีการพูดคุยสนทนาถึงได้ทราบว่าน้องติดต่อหางานทางไอจี ที่โพสต์รับสมัคร แต่ถูกหลอกให้ลงทุนจนหลงเชื่อเอาเงินจากบัญชีคุณแม่โอนเข้าบัญชีของน้อง ก่อนที่จะโอนต่อไปให้กับบุคคลดังกล่าว โดยพบสลิปยอดเงินครั้งสุดท้ายที่โอนไปจำนวน 11,973.71 บาท สุดท้ายน้องคงรู้ว่าถูกหลอก จึงส่งข้อความตัดพ้อพร้อมกับรูปเชือกไนลอน ไปให้กับบุคคลที่สนทนาด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้น้องถูกหลอกให้โอนเงินไปภายในวันเดียวประมาณ 14,000 บาท

ญาติเชิญวิญญาณ








Advertisement

หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เรียกประชุมชุดสืบสวนบก.สอท.2 คลี่คลายคดี พร้อมรับปากว่า สิ่งที่นายอาทิตย์ ผู้เสียชีวิตเขียนจดหมายสั่งเสียให้ตำรวจติดตาม ทางตำรวจจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่โดยระบุว่าตำรวจสืบรู้เส้นทางการเงินของคนร้ายหมดแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถแยกระดับของบัญชีม้าออกเป็น 8 ระดับ ใช้วิธียักย้ายถ่ายเทภายในระยะเวลารวดเร็วจากบัญชีที่หนึ่งไปยังบัญชีที่ 5 ไม่ถึง 39 วินาทีก่อนที่จะโอนไปยังบัญชีของพ่อค้าเงินสกุลดิจิตอล

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ประชุม

ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 11 ราย ก่อนเปิดปฏิบัติการระดมจับได้รวม 9 คน ต่อมาวันที่ 14 ม.ค. ที่ บช.สอท. เมืองทองธานี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงดีอีเอส, พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ รองผบช.สอท., พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 และ พล.ต.ต.กานตพงศ์ ผบก.ตอท. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมครั้งนี้

ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ประกอบด้วย นายโอภาส ผลาพรม อายุ 26 ปี, น.ส.นภาพร หอมจันทร์ อายุ 32 ปี, นายชนสร นพกร อายุ 33 ปี นายสมบูรณ์ พงษ์เทเวช อายุ 55 ปี น.ส.พบพร วงศ์แข อายุ 28 ปี นายถนอมศักดิ์ แซ่ฮุย อายุ 27 ปี นายรัชชานนท์ สายจันดา อายุ 38 ปี นายชัยวัฒน์ วีระษร อายุ 34 ปี และรายล่าสุด นายไพบูลย์ สุนิธิถาวร อายุ 24 ปี เจ้าของบัญชีไอจี ที่ใช้ล่อลวงที่ถูกตามไปจับถึง จ.เชียงใหม่

นายไพบูลย์ สุนิธิถาวร เจ้าของไอจี

พล.ต.ต.วิวัฒน์กล่าวว่า แผนประทุษกรรมของผู้ก่อเหตุ มีลักษณะที่ตำรวจเรียกว่า การตกเบ็ด คือ การสร้างแรงจูงใจเกี่ยวกับรายได้ผลตอบแทนที่สูง เมื่อมีผู้หลงเชื่อ จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการหลอกลวงให้ทำทุกภารกิจตามที่ได้ตกลงกันไว้ จากนั้นผู้ก่อเหตุจะให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าสู่บัญชีม้าที่เปิดทิ้งไว้ ก่อนจะโอนเงินผ่านทางสกุลเงินดิจิตอลไปยังเครือข่ายที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน กดเงินหรือแลกเงินออกมาอีกทอดหนึ่ง

“ปัจจุบันมิจฉาชีพใช้อุบายหลอกเหยื่อ โดยใช้วิธีแปะลิงก์ ซึ่งขอให้ระมัดระวัง ให้คิดก่อนคลิก มีสติทุกครั้ง หากพบลิงก์ชักชวนทำงาน หรือลิงก์อื่นๆ อย่าไปเผลอคลิก เนื่องจากมือถือจะถูกดูดข้อมูลกลายเป็นว่าข้อมูลทุกอย่างจะกลายเป็นของคนร้ายในทันที” พล.ต.ท.วิวัฒน์กล่าวเตือน

ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ

เรื่อง/ภาพ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน