นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการจดทะเบียนประกอบธุรกิจของคนต่างชาติ ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ประจำปี 2565 ว่า จำนวนรวมทั้งสิ้น 583 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 128,774 ล้านบาท ช่วยจ้างงานคนไทย 5,253 คน โดยต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 151 ราย คิดเป็น 26% เงินลงทุน 39,515 ล้านบาท สิงคโปร์ 98 ราย คิดเป็น 17% เงินลงทุน 15,893 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 71 ราย คิดเป็น 12% เงินลงทุน 3,418 ล้านบาท ฮ่องกง 40 ราย คิดเป็น 7% เงินลงทุน 18,188 ล้านบาท และ จีน 31 ราย คิดเป็น 5% เงินลงทุน 23,306 ล้านบาท

เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 13 ราย เพิ่มขึ้น 2% เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 46,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จาก 82,501 ล้านบาทในปี 2564 เป็น 128,774 ล้านบาท ในปี 2565 จ้างงานคนไทย 5,253 คนลดลงจากปีก่อน 4%

ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในปี 2565 สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ปี 2565 ว่า มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน จำนวน 119 ราย คิดเป็น 20% ของจำนวน นักลงทุนทั้งหมด มูลค่าการลงทุน 52,879 ล้านบาท คิดเป็น 41% ของเงินลงทุนทั้งหมด

ธุรกิจที่ลงทุน อาทิ บริการศูนย์กระจายสินค้าระหว่างประเทศด้วยระบบที่ทันสมัย, บริการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการควบคุมการผลิตในโรงงาน และระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชั่น การอัพเกรดซอฟต์แวร์ต่างๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ เฉพาะเดือนธ.ค.2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย 53 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 16,308 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 245 ค นส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนแก่คนไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน