มีบ้านมีสวนอยู่ติดกันก็ไม่ต่างกับลิ้น กับฟัน ย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา หากอะลุ้มอล่วยกันได้ก็เป็นสิ่งดี แต่หากขิงก็ราข่าก็แรงสุดท้ายอาจกลายเป็น เรื่องสยอง!

เหตุการณ์สยองถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ม.ค. พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิฑูรย์ สุขประดิษฐ์ สารวัตรสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์ หลักฐาน 8, แพทย์โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ และกู้ภัยเพชรพนมวัง กุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตในสวนยางพารา ซอยนวลน้อย หมู่ 2 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี

สดจากสนามข่าว - ผ่าปมยิงดับคาสวนยาง เจ้าของไร่แตงกวาจำนน ชำระแค้นขโมยผลผลิต

ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ

 

ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพารา ห่างจากถนนประมาณ 150 เมตร พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อต่อมาคือ นาย พันทรัตน์ ดำสอน หรือเล็ก อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.2 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี สภาพสวมชุดกรีดยาง สวมรองเท้าบู๊ต มีตะเกียงส่องแสงสว่างคาดอยู่บนศีรษะ มีแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง กระสุนกระจายเข้าที่ลำคอ ใบหน้าและบริเวณขา ที่ใบหน้ายังพบบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ตำรวจสอบถามนางศิริเพ็ญ จันทร์หวาน หรือแอ๋ว อายุ 44 ปี ภรรยา ซึ่งเป็นผู้มาพบศพเล่าว่า ตนและสามีมีอาชีพทำสวนยางพาราและหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาตนกับสามีก็ออกไปกรีดยางตามปกติ โดยตนกรีดยางแปลงที่อยู่ติดกับบ้าน ส่วนสามีไปกรีดอีกแปลงซึ่งห่างจากบ้านไปประมาณ 300 เมตร โดยทุกๆ วันสามีจะกลับมาบ้านในเวลาประมาณ 05.00 น. แต่วันนี้ตนเห็นผิดสังเกต ไม่เห็นสามีกลับมาบ้านตามปกติ แต่ไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งเห็นว่าสายมากแล้ว จึงตามไปที่สวนยางพารา

สดจากสนามข่าว - ผ่าปมยิงดับคาสวนยาง เจ้าของไร่แตงกวาจำนน ชำระแค้นขโมยผลผลิต

ส่งศพชันสูตร

 

เมื่อไปถึงก็เห็นว่าสามีนอนฟุบอยู่บนพื้นดิน ก็คิดว่าสามีเป็นลม จึงได้รีบเข้าไปเพื่อให้การช่วยเหลือ แต่กลับพบว่าสามีมีบาดแผลที่ลำคอ และเสียชีวิต ที่ผ่านมาสามีไม่เคยมีปัญหา หรือทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ปัญหาอื่นๆ ก็ไม่มี จึงไม่ทราบว่าสาเหตุ มาจากอะไร

แม้ในตอนแรกทางภรรยาผู้ตายจะให้การว่าสามีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร แต่เมื่อตำรวจตะล่อมถามไปถามมา สุดท้ายก็ได้ข้อมูลว่าผู้ตายเคยทะเลาะกับนายสำราญ หรือใหญ่ ช่วยมี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/5 หมู่ 4 ต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีสวนแตงกวาอยู่ติดกับสวนยางที่สามีไปกรีดยาง โดยแตงกวาที่ เจ้าตัวปลูกเอาไว้ถูกคนขโมยไป ก็มากล่าวหาว่าสามีเป็นคนเข้าไปลักขโมยแตงกวา

สดจากสนามข่าว - ผ่าปมยิงดับคาสวนยาง เจ้าของไร่แตงกวาจำนน ชำระแค้นขโมยผลผลิต

ครอบครัวร่ำไห้

 

ภายหลังได้ข้อมูล ตำรวจตรวจสอบข้อมูลการครอบครองอาวุธปืนพบว่านายสำราญมีอาวุธปืนลูกซองยาวตรงกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ต่อมาเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ พร้อมชุดสืบสวน ตามไปสอบสวนนายสำราญ ขณะพักผ่อนอยู่ในขนำในไร่แตงกวา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร โดยในการซักถามปากคำนายสำราญ ในตอนแรกก็ยืนยันปฏิเสธไม่รู้เรื่องด้วย

แต่สุดท้ายเมื่อจำนนด้วยหลักฐาน โดยเฉพาะเรื่องอาวุธปืน เจ้าตัวก็เปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงนายพันทรัตน์จริง เนื่องจากโกรธแค้นที่ผู้ตายมักเข้ามาขโมยแตงกวา โดยก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุได้มาเช่าที่ดินใกล้กับสวนยางพาราของนายพันทรัตน์เพื่อทำสวนแตงกวา และพบว่าผู้ตายเข้าไปขโมยเก็บแตงกวาในสวนของตนไปขายหลายครั้งแล้ว แม้จะมีการพูดจาไม่ให้มาขโมยก็ไม่เป็นผล

สดจากสนามข่าว - ผ่าปมยิงดับคาสวนยาง เจ้าของไร่แตงกวาจำนน ชำระแค้นขโมยผลผลิต

จนมุมที่ขนำ

 

นายสำราญให้การว่า ก่อนเกิดเหตุไปดักซุ่มรอนายพันทรัตน์ตั้งแต่ช่วงค่ำ จนสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าใส่ 2 นัด แต่ นายพันทรัตน์ยังไม่เสียชีวิต จึงได้ใช้มีดพร้าเข้าไปฟันซ้ำที่ใบหน้า หลังก่อเหตุก็กลับไปนอนที่ขนำและทำตัวตามปกติ โดยไม่คิดว่าตำรวจ จะคลี่คลายคดีได้เร็วขนาดนี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดปืนอาวุธปืนลูกซองยาว ชนิด 8 นัด กระสุนปืนลูกซองในรังเพลิงปืน 6 นัด ปลอกกระสุนในรังเพลิง 1 ปลอก มีดพร้า 1 เล่ม ที่นายสำราญได้นำไปซ่อนไว้ในพงหญ้าห่างจากขนำประมาณ 100 เมตร และควบคุมตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน

บ้านเมืองมีกฎหมายแต่ไม่ยอมใช้ เมื่อเลือกใช้อาญาเถื่อน ก็ต้องยอมรับผลของการกระทำของตัวเอง

สุรชัย ส้มเกลี้ยง เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน