นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประจำเดือนก.พ. 2566 ว่า ที่ประชุมแสดงความเป็นห่วงเรื่องต้นทุนการผลิตที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่อาจส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการ ที่จะส่งผ่านไปยังผู้บริโภคผ่านราคาสินค้าและบริการที่ปรับเพิ่มขึ้น กกร. จึงมีข้อเสนอให้ปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดถัดไปเดือนพ.ค-ส.ค. 2566 ลงอีก
นอกจากนี้ เห็นชอบแนวทางจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) พลังงาน และให้ กกร. จัดทำโครงสร้างรูปแบบการทำงานเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบจัดตั้งต่อไป และระหว่างการจัดตั้ง กรอ. พลังงาน ขอให้มีคณะทำงานเฉพาะกิจด้านพลังงาน บูรณาการความร่วมมือแก้ปัญหาระยะสั้น-กลาง-ยาว และสร้างความเข้าใจด้านพลังงาน
ที่ประชุมยังกังวลแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วและมากกว่าสกุลอื่นในภูมิภาค เห็นได้จากตั้งแต่เดือนต.ค. 2565 เงินบาทแข็งค่าประมาณ 15% และแข็งค่าถึง 5% ในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา กดดันความสามารถในการแข่งขันสินค้าส่งออกของไทยที่ชะลอลง และต้องติดตามปัจจัยดังกล่าวที่มีผลกระทบอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ แม้คาดว่าจีนจะฟื้นตัวขึ้นได้เร็วและชัดเจนช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ประกอบกับนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปและสหรัฐมีแนวโน้ม ฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด เป็นแรงสนับสนุนการท่องเที่ยวของไทยที่คาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 22.5 ล้านคน อาจไม่เพียงพอ ที่จะทดแทนความต้องการสินค้าจากประเทศหลักอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนและเตรียมความพร้อมด้านแรงงานให้เพียงพอรองรับการท่องเที่ยวที่ขยายตัว หลังจีนเปิดประเทศ
“กกร. จึงยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ปี 2566 อยู่ที่ 3-3.5% ส่งออกคาดอยู่ที่ 1-2% เงินเฟ้อ 2.7-3.2%”