วันที่ 19 ก.พ. บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวกับหนังสือพิมพ์เลอ เจอร์นัล ดือ ดิมงช์ ว่า อยากให้รัสเซียพ่ายแพ้ในสงครามรุกรานยูเครน แต่ไม่ต้องการให้รัสเซียถูกบดขยี้ “ผมต้องการให้รัสเซียพ่ายต่อยูเครน และผมต้องการให้ยูเครนมีความสามารถในการปกป้องตัวเอง” นายมาครงย้ำ พร้อมปฏิเสธข้อครหาที่หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลฝรั่งเศสพุ่งเป้าทำสงครามกับรัสเซีย โดยกล่าวยืนยันว่าว่าตนไม่อยากเห็นรัสเซียพ่ายแพ้ย่อยยับ “ผมไม่ได้คิดเหมือนที่บางคนคิดว่าเราต้องทำให้รัสเซียพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบ หรือโจมตีรัสเซียในดินแดนของพวกเขา ผู้สังเกตการณ์เหล่านั้น นอกเหนือจากเรื่องทั้งหมดคือต้องการบดขยี้รัสเซีย นี่ไม่เคยเป็นและจะไม่ใช่จุดยืนของฝรั่งเศส” นายมาครงกล่าว
ความเคลื่อนไหวของนายมาครงเกิดขึ้นหลังเข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงมิวนิกในนครมิวนิก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้นำฝรั่งเศสยังแสดงเจตจำนงให้รัสเซียและรัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาและยุติสงครามด้วยสันติภาพ อย่างไรก็ตาม นายมาครงเรียกร้องให้ชาติตะวันตกและพันธมิตรสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) เร่งระดมกำลังสนับสนุนยุทโธปกรณ์แก่ยูเครนเพื่อรับมือการโจมตีครั้งใหญ่จากกองกำลังรัสเซียในช่วงครบรอบ 1 ปีปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนในวันที่ 24 ก.พ.
ก่อนหน้านี้นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แถลงในที่ประชุมด้านความมั่นคงมิวนิกอย่างเป็นทางการว่ารัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามต่อต้านมนุษยชนในยูเครน โดยกล่าวหารัสเซียว่ากระทำการฆาตกรรม ทรมาน และข่มขืน หลังรุกรานเข้าดินแดนยูเครน พร้อมย้ำว่าผู้กระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดี “การกระทำของพวกเขาเป็นการทำร้าย ค่านิยมร่วมและความเป็นมนุษย์ของเรา” แม้รัสเซียปฏิเสธหลายครั้งว่าไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีพลเรือน ขัดแย้งกับหลักฐานทั้งภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ รวมถึงการค้นพบศพในหลายเมือง
