คาดการณ์ว่าจะมีประกาศยุบสภาภายในช่วง 15 วันแรกของเดือนมีนาคม และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 7 พฤษภาคม 2566

การยุบสภาถือเป็นการชิงความได้เปรียบของรัฐบาล อย่างน้อยพรรคใหม่ที่นายกรัฐมนตรีสมัครเป็นสมาชิกมีเวลาให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือบุคคลอื่นๆ เข้าร่วม เพื่อหลีกเลี่ยงเงื่อนไข 90 วัน

ขณะเดียวกัน ก็เป็นประโยชน์กับพรรคการเมือง อื่นๆ ด้วยเช่นกัน สำหรับบุคคลที่ต้องการย้ายพรรคหรือสมัครเข้าเป็นสมาชิก เพราะเพียงแค่ภายใน 30 วันก็มีคุณสมบัติลงรับสมัครเลือกตั้งได้

จึงมีความคึกคักของการเตรียมการและเตรียมตัวลงเลือกตั้งการเปิดตัวผู้สมัครในระบบเขตของพรรคการเมือง จากนั้นก็ประกาศรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป

ช่วงการยุบสภานั้น เป็นสุญญากาศอำนาจบริหาร นโยบายต่างๆ จะขับเคลื่อนแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เนื่องจากข้าราชการจะรอดูสถานการณ์ว่าต่อไปใครจะได้เป็นผู้มีอำนาจเข้ามาสั่งการ

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีความกังวลช่วงรัฐบาลรักษาการ จะดำเนินการอย่างไรโดย ไม่ต้องชะลอหรือสะดุดลง เพื่อให้ทันสถานการณ์ของโลกและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ขณะที่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเชื่อว่าระหว่างการจัดการเลือกตั้งจะ ไม่กระทบกับเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มที่ดี

ถ้ามีผลการเลือกตั้งโปร่งใสเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ได้รับการยอมรับและรัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพมั่นคง ก็จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นานาชาติ








Advertisement

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุการเลือกตั้ง ครั้งนี้จะเป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น พรรคการเมืองต่างๆ เริ่มวางแผนกิจกรรมรณรงค์หาเสียงอย่างคึกคัก

ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น ธุรกิจป้าย ไวนิล แผ่นพับ รถเช่า เครื่องขยายเสียง และเวทีปราศรัยทั่วประเทศที่เคยซบเซากลับมาฟื้นตัวมี รายได้หมุนเวียนอีกครั้ง

ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยพยุงให้เศรษฐกิจไทยฟื้นเร็วขึ้น แม้จะมีวิกฤตส่งออกชะลอตัวก็ตาม

การเลือกตั้งครั้งนี้แข่งขันกันรุนแรง พรรคร่วมฝ่ายค้านมีเป้าหมายชัดว่าจะต้องชนะให้ขาด ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็ชูนโยบายประชานิยมแบบไม่อั้น ดังนั้น ประชาชนต้องพิจารณาบนพื้นฐานของความเป็นไปได้และทำได้จริงหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน