นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสถิติการส่งออกสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2565 ว่า มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 5,400 ล้านบาท โดยสินค้า 5 อันดับแรกที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด ได้แก่ 1. หอมแดงศรีสะเกษ มูลค่า 700 ล้านบาท ส่งออกไปตลาด อินโดนีเซีย และมาเลเซีย 2. มะขามหวานเพชรบูรณ์ 300 ล้านบาท 3. ส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม 200 ล้านบาท 4. กล้วยหอมปทุมธานี 197 ล้านบาท และ 5. ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง 138 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความคุ้มครองและผลักดันมูลค่าการตลาดการ ส่งออกสินค้าจีไอไทยไปยังต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ปี 2566 กรมมีแผนที่จะยื่นจดทะเบียนสินค้าจีไอ ในต่างประเทศจำนวน 2 รายการ ได้แก่ การยื่นขอจดทะเบียน มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี ในสหภาพยุโรป โดยปัจจุบันผู้ผลิตมีกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อการส่งออกและเป็นไปตามมาตรฐานของตลาดอียู ปี 2564 ส่งออกไปอียูรวม 2,000 ตัน มูลค่า 88 ล้านบาท
และยื่นจดทะเบียนมะม่วงน้ำดอกไม้สระแก้ว ในประเทศเวียดนาม เพราะมีแนวโน้มตลาดที่ดี โดยปัจจุบันมะม่วงน้ำดอกไม้จากไทย เป็นสินค้านำเข้าอันดับ 3 ของประเทศเวียดนาม โดยในปี 2564 นำเข้าจากไทย จำนวน 1 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่า 120 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าจีไอที่กรมได้ยื่นขอจดทะเบียนไปใน ต่างประเทศแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณารับจดทะเบียนจำนวน 10 สินค้า ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน 6 รายการ คือ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มะขามหวานเพชรบูรณ์ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ทุเรียนปราจีน และมะพร้าวน้ำหอมราชบุรี, สหภาพยุโรป 1 รายการ คือ ไวน์เขาใหญ่, ญี่ปุ่น 3 รายการ กาแฟดอยช้าง กาแฟดอยตุง และสับปะรดห้วยมุ่น และมาเลเซีย 3 รายการ คือ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และส้มโอทับทิมสยามปากพนัง
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมได้ยื่นจดทะเบียนสินค้าจีไอในต่างประเทศ ที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยแล้วในกว่า 30 ประเทศ 8 สินค้า ทั้งในสหภาพยุโรป อินเดีย อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนาม
