“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง เป็น ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” สารพัดคำเหล่านี้ที่ทำให้ธุรกิจเสริมความงามเจริญเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง คลินิกเสริมความงามผุดขึ้นทั่วทุกหัวระแหง นอกจากนี้ยังมีหมอกระเป๋าที่รับดูแลเสริมความงามกันภายนอกสถานที่

เมื่อดีมานด์มีมากกว่าซัพพลาย ภาวะแพทย์ด้วนความงานขาดแคลน แพทย์คนเดียวต้องวิ่งรอกหลายคลินิก กลายเป็นช่องทางให้เหล่า หมอเถื่อนแทรกเข้ามาเป็นจำนวนมาก

ตรวจยึดของกลาง

 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, เจ้าหน้าที่ อย.บุกเข้าตรวจสอบภายในคลินิกเสริมความงาม แห่งหนึ่งในซอยอนามัย ถ.ศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. หลังสืบสวนพบว่ามีแพทย์ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพหรือหมอเถื่อนแอบลักลอบให้บริการอยู่

ค้นรถหาหลักฐาน

 

เบื้องต้นพบคลินิกดังกล่าวเป็นคลินิกเสริมความงาม ที่เปิดให้บริการรับฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์และร้อยไหม ภายในคลินิกพบนายพัสกร อัศวโกธิน อายุ 36 ปี แสดงตนเป็นแพทย์ กำลังยืนผสมตัวยาเตรียมฉีด เข้าเส้นเลือดให้กับหญิงสาวที่เป็นลูกค้า จึงขอตรวจสอบก่อนพบนาย พัสกรนั้นไม่ได้เป็นแพทย์ตามที่กล่าวอ้าง ไม่มีความรู้ ความชำนาญ อย่างแพทย์ผู้มีวิชาชีพ จนเสี่ยงให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้บริการ จึงทำการจับกุมพร้อมตรวจยึดเครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยาอื่นๆ ที่เป็นความผิด กว่า 26 รายการ เป็นของกลาง








Advertisement

กำลังฉีดยาให้ลูกค้า

 

สอบสวนนายพัสกรให้การรับสารภาพว่าตนไม่ใช่แพทย์ตัวจริง และไม่มีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แต่อย่างใด เพราะเรียนจบระดับชั้นปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ แต่เนื่องจากส่วนตัวสนใจด้านศัลยกรรมเสริมความงาม จึงเข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง

พอฝึกฝนจนมีความชำนาญ ก็เริ่มเห็นช่องทางว่าธุรกิจเสริมความงามมีรายได้ดี จึงปลอมวุฒิการศึกษาแอบอ้างตัวเป็นแพทย์เฉพาะทาง และเริ่มรับฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์ ร้อยไหม รวมทั้งรับงานนอกสถานที่ในลักษณะหมอกระเป๋า และรับงานตามคลินิกเสริมความงามที่ไม่มีแพทย์ประจำอีกด้วย

นายพัสกร อัศวโกธิน หมอเก๊

 

นายพัสกรหมอเก๊ให้การต่อว่า ตนเริ่มแอบอ้างเป็นหมอแบบนี้มาได้ประมาณ 5 ปีแล้ว แต่ละเดือนจะมีรายได้ประมาณ 30,000-40,000 บาท จนกระทั่งมาถูกจับดังกล่าว

นอกจากที่หมอเก๊ให้การแล้ว ตำรวจปคบ. จากการสืบสวนยังพบด้วยว่านายพัสกรได้ให้บริการเสริมความงามให้ลูกค้าของคลินิก ดังกล่าวมาแล้วกว่า 120 ราย และที่น่าตกใจคือจากข้อมูลพบว่าหมอเก๊รายนี้ยังรับฉีด ฟิลเลอร์ที่บริเวณหน้าผากด้วย

เก็บหลักฐาน

 

ซึ่งแพทย์ต่างพูดตรงกันว่า ทั่วไปแล้วจะไม่ค่อยรับฉีดตรงหน้าผาก เนื่องจากเป็นจุดที่อันตรายสูง เพราะมีเส้นเลือดเชื่อมต่อไปยังจอประสาทตาและสมอง หากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ อาจทำให้เกิดผลกระทบถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว แต่หมอเก๊รายนี้กลับรับฉีดเฉย

ภายหลังการสอบสวน จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดีในข้อหา “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ”

คนไข้สาวๆ คนไหนเจอเข้าก็คงต้องช็อก! เมื่อหมอที่กำลังปักเข็มฉีดยาที่แขน ดันกลายเป็นหมอเก๊ไปเสียได้

สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน