วันที่ 5 ม.ค นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เมื่อพูดถึงโอกาสสำคัญที่สุดไม่หนีเรื่องเงินทุน ใครเข้าถึงแหล่งเงินก็ไปได้ ใครเข้าไม่ถึงก็ไม่มีโอกาสทำมาหากิน คนรวยได้เปรียบเพราะกู้ได้ถูก หรือไม่ต้องกู้เลย ส่วนคนจนต้องกู้แพง ยิ่งใครต้องกู้นอกระบบยิ่งไปกันใหญ่ ปี 65 พรรคนำโดย นายนที ศิริธรรมวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พญาไท ทำโครงการ “กล้าปลดหนี้” เพื่อช่วยให้ผู้เป็นหนี้นอกระบบกลับมากู้ในสถาบันการเงินได้ แทบทุกธุรกิจต่างต้องใช้เงินทุนเพื่อเริ่มต้นด้วยกันทั้งนั้น และบางครั้งประสบปัญหา เช่น ในสถานการณ์ช่วงโควิดที่ขาดรายได้ แต่ ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตธุรกิจจะกลับมาไม่ได้
ขอคะแนน – นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่แนะนำนโยบายพรรค พร้อมฟังความเห็นจากผู้ประกอบการร้านค้าและชาวบ้าน บริเวณ ถ.ประชาราษฎร์ สาย 1 ย่านบางโพ กทม.
“โครงการกล้าปลดหนี้ที่เราทำ เป็นการประสานชาวบ้านกับสถาบันการเงิน เพื่อสามารถกู้เงินมาหมุนธุรกิจให้ไปต่อ อย่างคุณเปิ้ลเจ้าของร้านหมูกระทะ ไม่เคย กู้จากแบงก์ได้ จึงต้องพึ่งนายทุนนอกระบบ ดอกเบี้ยเดือนละ 20% แต่รอดได้ด้วยเงินกู้ที่เราช่วยประสานให้ กู้ปีละ 33% หรือเดือนละ 2% กว่าเท่านั้น ทำให้วันนี้ธุรกิจอยู่รอด” นายกรณ์กล่าว
มีอีกหลายคนที่กู้ไม่ได้เพราะติดแบล็กลิสต์ ทำให้ธุรกิจต้องล้มหายไป จึงเป็นที่มาของนโยบาย “ยกเลิกแบล็กลิสต์ เปลี่ยนมาใช้ระบบเครดิตสกอร์” แทน เพราะระบบจะดีกว่ามาก ใช้คะแนนดี (การจ่ายค่าน้ำ, ไฟ, มือถือ หรือต้นทุนค้าขาย) มารวมคิดเพื่อปล่อยกู้ ไม่ใช่คิดแต่ประวัติเสียซึ่งอาจเกิดเพราะโควิด และไม่เป็นการผลักให้คนไปกู้นอกระบบซึ่งดอกโหดมาก เราต้องการระบบสินเชื่อที่เป็นธรรม ช่วยให้คนที่พลาดพลั้งอย่างไม่ตั้งใจกลับมาสู่ระบบให้ได้ เราไม่ได้ส่งเสริมให้ทุกคนเป็นหนี้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีต้นทุนในชีวิตที่ดี เราต้องสร้างสังคมที่สร้างโอกาสให้ทุกคนได้ลืมตาอ้าปาก ต้องช่วยกันหาเงินเข้ากระเป๋าคนตัวเล็กๆ ผลักดันให้เศรษฐกิจไทยโตไปอย่างยั่งยืน
