นับถอยหลังยุบสภาเลือกตั้งใหม่ จับตาไปยังพรรคประชาธิปัตย์ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กำลังอยู่ ในช่วงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก
โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่ เลือกตั้งครั้งนี้มีเก้าอี้ส.ส.ให้ช่วงชิงถึง 60 ที่นั่ง
เพิ่มจากเลือกตั้งปี 62 ซึ่งมีเพียง 50 ที่นั่ง ครั้งนั้นแม้ประชาธิปัตย์จะได้มากสุด 22 ที่นั่ง แต่ถือว่าถดถอยลงไปมากหากเทียบกับยุครุ่งเรืองที่ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ยังได้รับเลือก
เลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า ประชาธิปัตย์ตั้งเป้ากอบกู้ศักดิ์ศรีคืนทั้งในพื้นที่ภาคใต้ และกรุงเทพฯ ที่ สูญพันธุ์ไปเมื่อ 4 ปีก่อน
แต่ปรากฏว่าแผนฟื้นฟูพรรคไม่ง่ายอย่างที่คิด
ประชาธิปัตย์ถูกเพื่อนตกปลาในบ่อ ไปจำนวนมาก ประกอบกับปัญหาขัดแย้งภายในรุนแรง ยิ่งฉุดให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก
“ความขัดแย้งมีอยู่บ้าง คงไม่มากกว่านี้ เพราะคนที่ออกไปก็ไม่ได้เกลียดชัง แต่อาจไม่พอใจหัวหน้า และ ถูกทาบทามไป ครั้งนี้ต้องยอมรับว่ามากที่สุด ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้เห็นถึงความอยากเอาชนะ จึงต้องทำบางอย่างที่เราไม่คิดว่าจะทำ แต่ถ้ามันไม่ถูกต้อง ก็จะมีอันเป็นไป”
ไม่เท่านั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยังพูดถึงตัวเลขเงิน 200 ล้าน ในการทุ่มซื้อคนของพรรค
ประเด็นประชาธิปัตย์ถูกตกปลาในบ่อ ยังนำมาสู่การสาวไส้เอาคืนจากอดีตแกนนำที่เพิ่งย้ายพรรคไปหมาดๆ
เกี่ยวกับการยัดเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 62
แม้มีการท้าทายจากคนในประชาธิปัตย์ ให้ผู้พูดนำพยานหลักฐานออกมาชี้แจงยืนยันต่อสาธารณชน แต่ก็ไม่เป็นผล
เรื่องนี้ยังคงประเด็นค้างคาใจประชาชนผู้สนับสนุนพรรค ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรแน่
ระหว่างที่พรรคเก่าแก่ระส่ำหนัก ก็ยังมีเรื่องอื่นเแทรกซ้อน สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของพรรค
ทั้งเรื่องส.ส.ถูกร้องเรียนจริยธรรมกรณีเปิดเล่นพนันในห้องทำงาน อาคารรัฐสภา
ล่าสุด ยังมีเรื่องส.ส.ภาคใต้ระดับ รองเลขาธิการพรรค ปราศรัยพาดพิง ด้อยค่ามหาวิทยาลัยทักษิณ สถาบันการศึกษาของว่าที่ผู้สมัครพรรคคู่แข่ง
เกิดกระแสตีกลับรุนแรงในสื่อโซเชี่ยล จนเจ้าตัวต้องรีบออกมายอมรับผิด ขอโทษสังคม คณาจารย์ ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน
ตบท้ายด้วยการหอบพวงมาลัยเข้าขอโทษอธิการบดี
มรสุมลูกเล็กลูกใหญ่รุมกระหน่ำตั้งแต่โค้งแรก
กว่าจะถึงโค้งสุดท้าย ไม่รู้จะสะบัก สะบอมขนาดไหน
