ผู้สูงอายุเฮ!คลังเล็งลดภาษีหนุนจ้างงาน – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่าในงาน IBussiness Forum 2023 THE NEXT THAILAND’S FUTRUE : จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความยั่งยืนว่า ความยั่งยืนเศรษฐกิจไทยมี 3 เรื่องคือ ความยั่งยืนของเศรษฐกิจ โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ดีขึ้นแต่การเติบโตที่เหมาะสมอยู่ที่ 4-5% ปีนี้คาดว่าจะโตได้ 3.8% โดยหลังจากนี้จะต้องดูข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเดือนมี.ค. และ เม.ย. ก่อนจะมีการปรับประมาณการใหม่อีกครั้ง แต่ต้องดูเสถียรภาพเศรษฐกิจ อาทิ อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้ชะลอเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-3% จากมาตรการดูแลราคาพลังงาน การตรึงราคาน้ำมันดีเซลด้วยการลดอัตราภาษี ถือเป็นระดับที่เหมาะสม ทุนสำรองระหว่างประเทศ หนี้สาธารณะ และหนี้ครัวเรือน

ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องดูเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นยั่งยืน ไม่เหมือนสหรัฐที่ใช้นโยบายการเงินดูแลไม่ให้เงินเฟ้อจากการบริโภคสูง ส่วนการจ้างงานแม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปี 2563-2564 แต่ยอมรับว่า ยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมีทักษะ ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องเร่งหามาตรการดูแลสังคมผู้สูงวัย โดยเฉพาะผู้ที่เกษียณอายุ 60 ปี ให้มีรายได้อยู่ได้ โดยต้องทำ 2 ทาง คือ ทำให้เกิดการจ้างงานผู้สูงอายุ ซึ่งคลังกำลังพิจารณาว่าจะมีมาตรการด้านภาษีเพื่อสนับสนุนอย่างไร และการสร้างหลักประกันที่มั่นคงในชีวิตสำหรับผู้สูงวัย

นายอาคมกล่าวต่อถึงสถานการณ์การคลังและฐานะการคลังของรัฐบาลว่าขณะนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร สัดส่วนหนี้สาธารณะอยู่ที่ 61.26% เพิ่มขึ้นเพราะเศรษฐกิจขยายตัว และจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งปีงบประมาณ 2566 อยู่ที่ 6.59 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า ส่งสัญญาณว่าไทยกำลังจะเข้าสู่ความยั่งยืนฐานะการคลัง ทุนสำรองอยู่ที่ระดับ 2 แสนล้านบาท ขณะที่ปีงบประมาณ 2567 รัฐบาลได้มีการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายอีก 1.65 แสนล้านบาท มากกว่าในอดีต 2 เท่า ทำให้รัฐบาลมีงบในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยหลัก ๆ ราว 20% ของงบประมาณดังกล่าว เป็นเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน