ดูการปรับเปลี่ยนตัวเองของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในมาดสวมแจ๊กเกตลายทันสมัย กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ทำให้กลายเป็นคนน่ารักในสายตาประชาชน ไปไหนมาไหนมีแต่คนรอหอมแก้ม
แต่พร้อมๆ กัน การแสดงท่าทีความคิดด้วยจุดยืนใหม่ ผ่านการโพสต์ทางเฟซบุ๊กหลายครั้ง กลายเป็นประเด็นน่าสนใจ
เป็นเหมือนการยืนยันว่า ในฐานะคนที่เติบโตมาจากกองทัพ เคยมองนักการเมืองด้วยสายตาฝ่ายอนุรักษนิยม วันนี้เมื่อได้สัมผัสการเมืองจริงๆ ก็มีความเข้าใจนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งมากขึ้น
รวมทั้งตอกย้ำว่า การรัฐประหารไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง มีแต่การเลือกตั้งและนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่จะนำประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าได้
ไม่ว่าพล.อ.ประวิตรจะโพสต์เอง หรือมีทีมงานจัดการให้ก็ตาม
แต่ไปๆ มาๆ คนที่ได้รับผลสะเทือนคือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ก่อรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 และสืบทอดอำนาจเป็นนายกฯ 8-9 ปีเข้าไปแล้ว!!
ทำให้หลายคนต้องนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ การอภิปราย ไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565
จังหวะที่พล.อ.ประวิตร ลุกขึ้นชี้แจงตอบโต้ฝ่ายค้าน ได้ปฏิเสธว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติรัฐประหาร
พร้อมกับชี้มือไปยังพล.อ.ประยุทธ์ ที่นั่งข้างๆ พร้อมกับกล่าวว่านี่ครับคนปฏิวัติ!
ฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ ยิ้มร่าอย่างภูมิใจ พร้อมกับชูมือขึ้นแสดงตัวตนตอบรับอีกด้วย
มาในสถานการณ์วันนี้ ท่าทีใหม่ของพล.อ.ประวิตร ทำให้เหมือนการฉายภาพซ้ำ เหตุการณ์ในสภาวันดังกล่าว!!
เพราะพล.อ.ประวิตร ประกาศปฏิเสธระบบอำนาจนิยม มองว่าการรัฐประหารไม่ใช่ทางออก ต้องประชาธิปไตย การเลือกตั้งเท่านั้น
ทำให้เกิดภาพใหม่ เป็นนักการเมืองฝ่ายเป็นกลาง พรรคพลังประชารัฐก็ดูเป็นกลาง ปลดพ้นภาพเป็นพรรคฝ่ายอนุรักษนิยมหนุนทหารไปได้
ภาพพรรคอนุรักษนิยมล้าหลัง และความเป็นนายพล เอียงขวา ไปปรากฏชัดที่พล.อ.ประยุทธ์เต็มๆ
เมื่อกลางปีก่อน พล.อ.ประวิตร บอกกล่าวกับประชาชนกลางสภาว่า คนปฏิวัติคือพล.อ.ประยุทธ์เพียงผู้เดียว
อาจจะไม่ได้ตั้งใจให้มีความหมายอะไรมาก เพราะตอนนั้น ยังกลมเกลียวรักใคร่กันดี
แต่ภาพนั้นกลับมาฉายซ้ำ เพราะการปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันสมัยทันโลกของพล.อ.ประวิตร
ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ที่เคยยิ้มปลาบปลื้ม ยกมือยอมรับอย่างภูมิใจ ว่าผมนี่แหละปฏิวัติเอง
มาวันนี้กลับหงุดหงิดกับประเด็นนี้แล้ว
พูดถึงเรื่องนี้อย่างไม่สบอารมณ์แล้ว อ้างว่าเรื่องรัฐประหารนั้นผ่านไปหลายปีแล้ว เลิกพูดได้แล้ว
วันเวลาผ่านไปเพียงข้ามปี เรื่องเดียวกัน กลับส่งผล ไม่เหมือนเดิม!
