เป็นมหากาพย์ที่ไม่มีข้อยุติลงง่ายๆ สำหรับคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่เพิ่งครบรอบเหตุการณ์ 1 ปีไปไม่นาน

แม้ตำรวจจะสรุปชัดเป็นอุบัติเหตุพลัดตกเรือ ขณะไปล่องเรือกับกลุ่มเพื่อน แต่ก็ยังเป็นคดีความที่ส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อเอาผิดผู้ร่วมเดินทางทั้ง 5 และผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันวางแผนปิดบังอำพรางอีก 1 ราย

แต่คดีที่น่าจะบานปลายได้อีก เมื่อล่าสุดคุณแม่ของแตงโม ก็ประกาศจะขอเป็นโจทก์ร่วมในคดี พร้อมเปิดหลักฐานใหม่ เป็นบทสนทนาที่บันทึกได้จากกล้องหน้ารถของแตงโมเอง

ส่วนเรื่องค่าเสียหาย ก็ยืนยันว่าต้องฟ้องเรียกเพิ่มอีก 40.8 ล้านบาท ให้ครบ 50 ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้มีการเจรจา ไกล่เกลี่ยตกลงตัวเลขที่ 9.2 ล้านบาท

ยืนยันเป็นสิทธิของแม่ที่จะได้เพราะแตงโมมีรายได้มหาศาล

ขณะที่ 2 จำเลยหลักในคดีก็รับสารภาพในข้อกล่าวหา จนศาลนัดอ่านคำพิพากษา

ไม่เพียงแค่นั้นแซน เพื่อนสนิทแตงโม ก็ออกมาเผยจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากคุณแม่ฐานหมิ่นประมาท เป็นจำนวนเงิน 40.8 ล้านเช่นเดียวกัน

อีนุงตุงนัง จนไม่รู้จะมีบทสรุปอย่างไร!???

■ แม่แตงโมเผยหลักฐานใหม่

แม่เปิดหลักฐานใหม่

ความสนใจในเรื่องคดีแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ กลับมาเป็น กระแสอีกครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นห้วงแห่งการครบรอบการเสียชีวิต 1 ปี เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ก็มีกระแสข่าวว่าคุณแม่ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เตรียมยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม จากเดิมที่เคยตกลงกันที่ 9.2 ล้านบาท เพิ่มอีก 40.8 ล้านบาท รวมเป็น 50 ล้านบาท

ขณะที่นางภนิดาก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการข่าว ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง โดยยืนยันว่ามีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย จะ 100 ล้านบาทก็ได้ แต่เลือกที่จะเลือก 50 ล้านบาท เพราะตอนแรกบอกแล้วว่าจะเรียก 30 ล้านบาท แต่เมื่อไปตรวจสอบเอกสารรายรับของน้องโม พบว่ามีรายรับมากกว่า 50 ล้านบาท ยืนยันว่าเป็นสิทธิที่พึงได้

ต่อมาในการขึ้นศาล จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ศาลนัดพร้อมทั้งฝ่ายจำเลยและฝ่ายผู้เสียหาย โดยจำเลยทั้ง 6 ประกอบด้วย นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์, นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์, น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก จุฑาสุขสวัสดิ์, นายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์, นายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาทร และนายภีม หรือเอ็ม ธรรมธีรศรี

ขณะที่นางภนิดาเดินทางมาพร้อมนายชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษากฎหมายและทนายความ พร้อมเปิดเผยว่า จะนำพยานวัตถุเป็นหลักฐานใหม่ในคดีเพื่อยื่นต่อศาล ขอให้ใช้เป็นพยานวัตถุเพื่อนำสืบ เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และจะขอพูดคุยกับจำเลยทั้งหมดในเรื่องค่าชดเชยเยียวยา

ด้านนายชัยวัฒน์เผยว่า คุณแม่ภนิดามีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายตามสิทธิในคดีแพ่งอยู่แล้ว ไม่ต้องรอในส่วนคดีอาญา สามารถเรียกร้องได้ตลอดเวลา ไม่จำกัดจำนวน ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 44/1 แม้จะทำสัญญาประนีประนอมกับฝ่ายจำเลยไปแล้วก็ตาม เพราะคดีนี้ยังไม่ถึงการพิพากษาเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทำให้สัญญาเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อพบพยานวัตถุใหม่

โดยหลักฐานชิ้นใหม่นี้จะยื่นประกอบการพิจารณากับศาล และพร้อมแถลงต่อศาลขอร่วมเป็นโจทก์กับอัยการในการยื่นฟ้องใหม่ด้วย

นางภนิดายังเปิดเผยอีกว่า หลักฐานใหม่นี้คือคลิปจาก กล้องหน้ารถของแตงโม ซึ่งบันทึกเสียงสนทนาของคนบนเรือ ที่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทั้งหมด พร้อมระบุว่าหลักฐานชิ้นนี้ทนายความ ยื่นขอของกลางจากตำรวจที่รักษาเอาไว้ร่วมปีมาตรวจสอบดู พบว่ามีข้อมูล บางส่วนถูกลบไป เมื่อให้ผู้เชี่ยวชาญกู้กลับมา พบว่าในรถมีการสนทนาของคนในรถ 2 คน ถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อฟังตั้งแต่ต้นจนจบก็มั่นใจ กับหลักฐานชิ้นนี้ จำเสียงบุคคลในคลิปได้ชัดเจน

ทั้งนี้รายงานระบุว่า หลักฐานดังกล่าว ภาพจากกล้องหน้ารถในเมมโมรี่การ์ด ที่ติดตั้งไว้ในรถยี่ห้อมาสด้า สีดำ ทะเบียน ฒว 13 กรุงเทพมหานคร ของดารา นักแสดงสาวแตงโม เป็นภาพเหตุการณ์ในวันที่ 24 ก.พ 2565 ที่เกิดเหตุ

หลักฐานใหม่ชิ้นนี้จะนำไปซึ่งบทสรุปอย่างไรคงต้องติดตาม!!!

■ เดือดต่อ!แซนฟ้องเรียก 40.8 ล้าน

แซนลั่นฟ้องกลับ

นอกจากนี้ แซนยังระบุอีกว่า เตรียมที่จะฟ้องกลับคุณแม่อย่างแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้คุณแม่กับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้ฟ้องแซนกับพวกในข้อหาฆาตกรรมมาก่อนทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง โดยมีลายเซ็นของคุณแม่เซ็นไว้ ในเอกสารที่ฟ้องจึงต้องดำเนินการฟ้องกลับและเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 40.8 ล้านบาทเช่นกัน ส่วนจะฟ้องเอาผิดกับคุณแม่ข้อหาอะไรนั้น ขอกลับไปปรึกษากับทีมทนายก่อน

ต่อมาแซนโพสต์ข้อความในอินสตาแกรมระบุว่า ข้อเท็จจริงสำหรับคุณแม่และทางทีมทนายเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องไม่บิดเบือนนะคะ แซนเป็นผู้โดยสารไปในฐานะเพื่อนไม่ใช่ผู้รักษาความปลอดภัยประจำเรือ ที่จะต้องมีหน้าที่คอยดูแลรับผิดชอบ ผู้โดยสารทุกคน

ต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด อย่าใช้วิกฤตเป็นโอกาสเลยนะคะ ทุกคนสูญเสียมาพอแล้ว ถ้ายังไม่จบ แซนจะไม่เพิกเฉยต่อทุกความผิด ทุกการกระทำจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แซนจะใช้ทุกสิทธิที่มีปกป้องตัวเองให้ถึงที่สุดค่ะ

ขาไปเป็นผู้โดยสาร ขากลับเป็นจำเลย ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน อุบัติเหตุคนตกรถโดยสาร โดนข้อหาประมาททั้งคันไหมคะ ทีมทนายใหม่ฝ่ายโจทก์ปล่อยข่าวปลอมทำให้แซนเสียหายแบบนี้ เข้าข่ายหมิ่นประมาท พวกคุณเป็นทนายน่าจะทราบความรู้พื้นฐานพวกนี้อยู่แล้วแปลว่าคุณตั้งใจกระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเลยนะคะ

ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องเงิน 40.8 ล้านบาท ก็ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์ เพราะค่าเสียหายที่แซนจะฟ้องตรงกับตัวเลขที่นางภนิดา จะยื่นขอค่าเสียหายเพิ่ม ซึ่งแต่เดิมตกลง ในการประนอมหนี้ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 65 กันที่ 9.2 ล้านบาท อันประกอบด้วยเงินสดและแคชเชียร์เช็ค 2 ล้านบาท และจ่ายเงินรายเดือนให้อีกเดือนละ 3 หมื่นบาท เป็นเวลา 20 ปี ขณะที่กระติกและแซน ให้ของขวัญคุณแม่ เป็นต่างหูมุก มูลค่า 5 หมื่นบาท

เป็นอีกคดีที่ยืดเยื้อแน่นอน!!!

แฟนคลับรำลึก 1 ปี

■ ‘ปอ-เบิร์ต’สารภาพทุกข้อหา

อย่างไรก็ตาม มีข้อเปลี่ยนแปลงทางคดีการเสียชีวิต เมื่อฝ่ายคุณแม่แตงโม ยื่นเรื่องขอเป็นโจทก์ร่วม และยื่นฟ้องใหม่จำเลยทั้ง 6 คน แต่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 และ 2 ประกอบด้วย ปอ-ตนุภัทร และโรเบิร์ต-ไพบูลย์ แถลงยอมรับเปลี่ยนแปลง คำให้การในชั้นศาลแล้ว

โดยเปลี่ยนเป็นให้การรับสารภาพทุกข้อหา ทำให้ศาลจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งให้นางภนิดาเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการจังหวัดนนทบุรี ยื่นฟ้องจำเลยที่เหลือทั้ง 4 คน ที่ให้การปฏิเสธทุกข้อหาเป็นคดีใหม่ในความผิดฐานร่วมกันประมาท

ทั้งนี้ นายตนุภัทร หรือปอ ถูกอัยการยื่นฟ้องในความผิดรวมกัน 6 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตร รับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ, ทิ้งของปฏิกูลลงแม่น้ำ, ไม่ติดชื่อเรือเป็นอักษรไทยและภาษาอังกฤษที่หัวเรือ และแจ้งความเท็จ

ส่วนนายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ถูกแจ้ง 4 ข้อหา คือกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ และทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงแม่น้ำ

โดยนางภนิดาระบุว่า รู้สึกเซอร์ไพรส์ รู้สึกดีใจและพอใจที่ปอกับโรเบิร์ตให้การรับสารภาพทุกข้อหา โดยที่ตนไม่คิดมาก่อนว่าทั้งสองจะรับสารภาพ เพราะตั้งแต่รับเป็นลูกมาปีนึงแล้วเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ตนมองว่าทั้งสองคนมาถูกทางแล้วที่รับสารภาพ เพราะถ้าสู้ต่อไปอาจจะแย่กว่าเดิมจากพยานหลักฐานที่ตนได้เป็นเสียงบันทึกในรถของคนที่อยู่ในเหตุการณ์บนเรือ

ร่วมอาลัยแน่น

ส่วนฝ่ายจำเลยที่เหลืออีก 4 คน อยู่ที่ตัวเขาเลยว่าจะรับสารภาพหรือไม่ ซึ่งทางตนก็ยังคงยืนยันที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 40.8 ล้านบาท ต่อไปตามเดิมจากจำเลยทั้ง 4 คนที่เหลือ ซึ่งยังไม่ได้มีการเจรจาพูดถึงในเรื่องการชดเชย

ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 10 พ.ค.2566 ส่วนคดีที่นางภนิดาร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกับอัยการของจำเลยที่ 3-6 จะยื่นฟ้องในวันที่ 17 มี.ค. 2566 และนัดพร้อมตรวจสอบพยานหลักฐานเป็นคดีใหม่ในวันที่ 28 เม.ย. 2566

ขณะที่ แซน-วิศาพัชกล่าวว่า แปลกใจมากและไม่รู้มาก่อนเลยว่าปอกับโรเบิร์ต จะกลับคำรับสารภาพในชั้นศาล เพราะที่ผ่านมาทั้งสองไม่เคยบอกมาก่อน และ เพิ่งมารู้วันนี้เช่นเดียวกัน จึงเป็นอะไรที่ ค่อนข้างเซอร์ไพรส์สำหรับตน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลังจากนี้ตนก็จะเดินหน้าสู้คดีให้ถึงที่สุดโดยไม่ต้องเกรงใจกัน

เดือดกันตั้งแต่ยังไม่ยื่นฟ้อง!!

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน