ทุ่มจิตวิญญาณในการรับบท ‘เสือดำ’ และ ‘เสือมเหศวร’ ในภาพยนตร์ “ขุนพันธ์ 3” สำหรับ 2 หนุ่ม ‘โตโน่’ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ และ ‘โอ้’ มาริโอ้ เมาเร่อ ที่ปะทะพระเอกมาดเซอร์ ‘บักจ่อย’ หรือ ‘อนันดา เอเวอริงแฮม’ ผู้รับบท ‘ขุนพันธ์’
โดยวันนี้ 2 เสือ ‘โน่-โอ้’ ได้มาเล่าถึงการสวมบทเสือร้ายในตำนานที่แสนจะท้าทายฝีมือแสดง
◆ บทเสือดำมีความสำคัญยังไงกับโตโน่?
โตโน่ – “เป็นความท้าทาย เป็นเกียรติ มีศรัทธาความเชื่อ สิ่งที่ผมต้องไปศึกษา กับสิ่งที่พี่โขม (ก้องเกียรติ) ทำเพิ่ม ผมมีหน้าที่เชื่อมให้เป็นเรื่องเดียวกันเพื่อสร้างเสือดำในแบบผม”
“มีไปเวิร์กช็อป และปรึกษาครูแอ๋ว (อรชุมา) ซึ่งเตือนว่านักแสดงที่ดีควรถอดเข้าถอดออกได้ พอเข้าเซ็ตเราควรเป็นเขา หลังจากนั้นถอดเขาออก และมีอีกวิธีคือรับเขาเข้ามา แต่นั่นเป็นวิธีอันตราย จะกระทบชีวิตส่วนตัว ทั้งที่รู้ว่าอันตรายผมก็จะลองดู ถึงไม่ได้ถ่ายก็ลองคิดและมองแบบเขา แล้วมีช่วงดีลกับตัวละครนี้ไม่ได้จนส่งผลกับชีวิตจริง หนักเข้าต้องหาจิตแพทย์ ปรึกษาครูแอ๋ว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปจะมีผลเวลาเข้าซีนที่ต้องซัดกัน โชคดีพอฝึกมากขึ้นเริ่มดีลกับตัวละครได้ ชีวิตจริงก็เริ่ม ดีขึ้น จากนั้นก็หาความพอดี”
“ซึ่งคาแร็กเตอร์เสือดำจะเป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา มีศักดิ์ศรี รักพวกพ้อง มุทะลุดุดัน มีอาวุธคู่ใจคือลูกซองสั้นและปืนคู่ มีรอยสักหนุมานที่หน้าอก ชุดคุมโทนด้วยสีที่เขารักและมองว่าเป็นสีบริสุทธิ์คือสีดำ ฟันดำแต่จุดเด่นมีฟันทองสองซี่ มีวิชาเสกฝุ่นไว้ปัดเป่าสิ่งที่เข้ามาทำร้าย รวมถึงบดบังตา”
◆ โอ้ล่ะ กับบทเสือมเหศวรที่ได้รับ?
โอ้ – “เสือมเหศวรเป็นจอมโจรคุณธรรม มาเข้าพวกสี่เสือภาคกลางเพราะไม่ชอบความเหลื่อมล้ำในสังคม เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรเชิ้ตขาว มีอาชีพหลากหลาย อาชีพหนึ่งคือนักข่าว ชอบปลอมตัว แคล่วคล่องว่องไวเหมือนลิงลม ฉลาด เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว สิ่งที่ห้อยติดตัวอยู่ตลอดคือพระมเหศวร มีคาถาเบี่ยงกระสุน และเป็นเสือคนเดียวที่กระตุกหนวดของขุนพันธ์ได้”
“สิ่งที่ผมชอบมากในตัวมเหศวรคือการปลอมตัว มีคาแร็กเตอร์หลากหลายซึ่งท้าทายตัวผม ต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ขี่ม้า ยิงปืน เล่นมายากล ภูมิใจมากกับบทเสือมเหศวร จริงๆ เป็นบทที่ไอดอลผมรับบทนี้มาหมดแล้ว ทั้งอามิตร ชัยบัญชา, อาแอ๊ด สมบัติ, พี่ต๊อก ศุภกรณ์ จนมาผม”
◆ การได้มาร่วมงานกันเป็นยังไงบ้าง?
โตโน่ – “โอ้เป็นความสุขของกอง น่ารัก ทำให้กองมีบาลานซ์ เพราะตอนผมอยู่ในคาแร็กเตอร์มันดิ่ง การแสดงออกของผมตอนเป็นเสือดำ กับตอนโตโน่เจอโอ้มันคนละแบบ”
โอ้ – “หลังจากผมได้แสดงกับพี่โน่ รู้สึกว่าเขาเข้าถึงคาแร็กเตอร์ได้ดีมากๆ ไม่หลุดจากบทเลย อินคาแร็กเตอร์ตลอด เวลาแต่งชุดเสือดำมา ผมเชื่อเลยว่าเขาคือเสือดำ”
◆ แล้วการร่วมงานกับอนันดาที่รับบทขุนพันธ์ ล่ะ?
โตโน่ – “ประทับใจมาก รักพี่จ่อยเลย เราไม่เคยทำงานด้วยกัน พอได้มาเห็นความรักที่พี่จ่อยมีต่อบทขุนพันธ์ วันแรกพี่จ่อยพูดกับผมว่า โน่ รู้ไหมว่ากูมีความฝันนึงคืออยากให้สักวันมีรูปขุนพันธ์ติดอยู่หลังรถบรรทุก เขารักในบทนี้ แล้วตัวผมเองถ้าผมบ้าอยู่คนเดียวมันไม่เท่าไหร่ มันต้องบ้าไปด้วยกัน ทำให้ยอมรับการทำงานของพี่จ่อย รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานด้วย”
โอ้ – “ผมมีพี่อนันดาเป็น ไอดอลตั้งแต่เด็ก พอได้มาแสดงหนังขุนพันธ์ 3 ร่วมกัน เกร็งเหมือนกัน เพราะพี่เขาเป็นคาแร็กเตอร์นี้ไปแล้ว การแสดงเป็นขุนพันธ์ไม่ง่าย มันค่อนข้างยาก แต่พี่เขาทำได้ดีมากๆ เชื่อเลยว่าคนคนนี้คือ ขุนพันธ์ คิดไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ใช่เขา จะเป็นใครที่จะมาแสดงเป็น ขุนพันธ์”
◆ อยากให้พูดถึงฉากที่ประทับใจเป็นพิเศษ?
โอ้ – “เป็นฉากที่จำไม่ลืม เป็นฉากที่เสือมเหศวรปีนขึ้นหอคอยแล้วโดนยิงปืนใหญ่ใส่ ตอนแรกลูกไฟไม่ใหญ่ พี่โขมเลยเพิ่มระเบิดเข้าไป พอกดระเบิดมันไม่ติดก็เลยเอาใหม่ เที่ยวนี้ติดใหญ่มากจนผมร้อนวาบ ระเบิดมันลึกและควักหินขึ้นมา หินกระเด็นเข้าหน้า ใจหายเลย จะโดนอะไรที่ตาไหม เจ็บมาก แต่ก็ผ่านมาได้โดยปลอดภัยดี ฝากให้ไปดูฉากนี้นะครับ เรียกว่าฉากใจหาย”
โตโน่ – “ของผมเป็นฉากเสือดำดวลกับขุนพันธ์ในชุมโจร ประทับใจมากคือผมและพี่จ่อยเล่นเอง ตอนนั้นเรามองเข้าไปในตาเขา รู้สึกว่าตาเขาเป็นตาเดียวกับขุนพันธ์ตัวจริง การเล่นเองทั้งสองคนมันเป็นทั้งความภูมิใจและความท้าทายที่เราต้องช่วยกันทำออกมาให้ดีที่สุด”
◆ รู้สึกยังไงที่มีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้?
โตโน่ – “เป็นงานที่เหนื่อยที่สุดในชีวิตก็จริง แต่ก็เป็นงานที่ภูมิใจและอยากดูที่สุด มีแต่ความประทับใจและความทรงจำดีๆ เรื่องนี้อาจจะเหนื่อยมาก แต่เหนื่อยกว่านี้เราก็จะทำ”
โอ้ – “ดีใจและภูมิใจ โอ้ทุ่มสุดๆ เป็นภาพยนตร์ที่เต็มที่ทั้งเรื่องนักแสดง บท คิว และเอฟเฟ็กต์ หลังจากนี้คงไม่ได้เจอภาพยนตร์ที่อลังการขนาดนี้บ่อยๆ”
ติดตามชมบทบาทของ 2 เสือในตำนานนี้ได้ในภาพยนตร์ “ขุนพันธ์ 3”
