นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) อดีตรมว.คลัง ได้รับเชิญจาก บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ในเครือธนาคารกรุงเทพ โดยเป็นหัวหน้าพรรค เพียงพรรคเดียวที่ถูกเชิญไปบรรยายให้กับนักลงทุนฟัง เนื่องจากแนวนโยบายที่นำเสนอมาตลอด 2 เดือนนั้น นักลงทุนขานรับว่าจับต้องได้และเป็นไปได้จริง
โดยนายกรณ์กล่าวว่า ชุดนโยบายของพรรคที่นำเสนอมานั้น พรรคได้คิดอย่างละเอียดว่าทำได้จริง และทุกนโยบายมุ่งสู่เป้าหมาย 3 ข้อ คือ งานดี มีเงิน ของไม่แพง ซึ่งประเทศไทยเพิ่งผ่านวิกฤตโควิด เศรษฐกิจโลกผันผวน ประชาชนประสบปัญหาเศรษฐกิจ มีหนี้สินจำนวนมาก เราจึงหาทางออก โดยการหาเงินเข้าประเทศ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดต่อไปต้องเร่งทำเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา และสร้างให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาสเหมือนในอดีตที่เคยทำได้มาแล้ว
นายกรณ์กล่าวว่า นโยบายที่ได้รับการพูดถึงขณะนี้คือ การยกเลิกแบล็กลิสต์ ช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนให้ลืมตาอ้าปากได้ นโยบายลดภาษีบุคคล เงินเดือนไม่ถึง 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ทันที 4 ล้านคน โดย 2 ล้านคน ที่รายได้เงินเดือนไม่ถึง 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี ส่วนที่รายได้สูงกว่านั้น ได้รับการยกเว้นภาษีในเงิน 40,000 บาทแรกด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองนโยบาย เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ และ 2 พรรคใหญ่เคยเสนอแล้วเมื่อการเลือกตั้งคราวที่แล้ว และเมื่อมาเป็นรัฐบาลกลับไม่ทำ
นายกรณ์กล่าวว่า พรรคยืนยันไม่มีจุดยืนแบ่งข้าง เลือกขั้ว ไม่ทะเลาะกับใคร และไม่ติดกับกับดักเดิมๆ เพราะรู้ดีว่า โดยธรรมชาติ ย้ายค่ายสลับขั้วเปลี่ยนไปมาตลอดเวลา และมักมีเหตุผลให้ตัวเองได้เสมอ บางพรรคที่เหมือนยึดมั่นอุดมการณ์ ความจริง เป็นเพียงแผนยุทธศาสตร์ทางการตลาดเพื่อรักษาฐานคะแนนของเขาเท่านั้น ส่วนพรรคชาติพัฒนากล้า เราเน้นสู้เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการหารายได้เข้าประเทศ ที่ผ่านมาเรามุ่งมั่นทำแบบนั้นมาตลอด
