ขับยาวๆ‘ฟอร์ด’เอเวอเรสต์ใหม่
ดีไซน์ดุดัน-ช่วงล่างนิ่งแรงไม่เกรงใจใคร

เมื่อครั้งที่ไปร่วมทดสอบ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เน็กเจน รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สไตล์ดุดัน ไม่เกรงใจใคร ช่วงที่เปิดตัวใหม่ๆ เส้นทางทดสอบค่อนข้างสั้น ไม่ถึง 50 ก.ม. คิดอยู่ตลอดว่ามีโอกาสต้องนำมาทดสอบแบบใช้ในชีวิตจริง ให้แฟนานุแฟน ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ได้รับทราบข้อมูลการขับขี่โดยทั่วกัน

นัดแนะไปยังผู้บริหารสาวสวยอารมณ์ดี ‘ออม’ กมลชนก ประเสริฐสม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย และตลาดอาเซียน ได้รับคำตอบ ให้เข้าไปรับรถได้เลย

เข้าไปรับรถที่คลังเก็บรถยนต์ทดสอบที่ย่านบางนา ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่น ไททาเนียม พลัส 4×4 10 AT สีส้ม คันเบิ้มจอดเด่นเป็นสง่ารออยู่แล้ว

ดีไซน์ใหม่หมด ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันทรง C-Clamp แก้มหน้ารถมองด้านข้างแล้ว ให้นึกถึงรถตรวจการณ์สุดหรูจากฝั่งยุโรป

ด้านข้างเส้นสายต่อเนื่องไปถึงด้านท้ายดูล้ำสมัย บึกบึน ไฟท้าย LED Signature ทรงเรียวยาว ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ

ภายในหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่แนวตั้ง 12 นิ้ว รองรับกล้องมองรอบคัน 360 องศา และความบันเทิงต่างๆ ช่องเสียบ USB type A และ type C รวมถึงแท่นชาร์จไร้สาย พวงมาลัย 3 ก้าน ระบบมัลติฟังก์ชัน หัวเกียร์ดีไซน์ใหม่ขนาดใหญ่ หลังคาพานอรามิก มูนรูฟ

กดปุ่มสตาร์ตเครื่อง เสียงคำรามจากขุมพลังดีเซล 2.0 ลิตร คำรามเข้ามาในห้องโดยสารพอประมาณ หน้าจอแจ้งว่าระยะทางวิ่งได้จากน้ำมันเต็มถังอยู่ที่ 870 ก.ม. เดี๋ยวมาดูกันว่าจะเป็นดังว่าไหม








Advertisement

มีภารกิจไป จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยผู้โดยสารเกือบเต็มคัน 6 คน และสัมภาระแบบ 2 วัน 1 คืน ครบทุกคน กับอุปกรณ์อื่นๆ พอประมาณ

คะเนจากสายตาแล้ว พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายไม่น่าใส่ได้หมด เลยพับเบาะแถว 3 ลง 1 ตัว ซึ่งทำได้ง่ายดาย ด้วยระบบไฟฟ้า กดปุ่มทีเดียวแยกอิสระ ทุกอย่างเรียบร้อย

การจราจรบน ถ.พระราม 2 หนาแน่น เคลื่อนตัวตามกันไป ทำความเร็วได้ไม่มาก ดีว่าด้วยความสูงใหญ่ทำให้มองเห็นแต่ไกลว่าควรเลือกอยู่เลนไหนถึงจะไปได้อย่างไม่ติดขัด

ถึงจะรูปร่างใหญ่โต แต่ความปราดเปรียวมีมาให้พอประมาณ เพราะกำลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เรียกกำลังมาใช้งานได้ทันใจ จังหวะต้องเร่งแซง หรือซอกแซกซ้าย-ขวาทำได้อย่างคล่องตัว

หลุดจาก ถ.พระราม 2 ถนนเริ่มโล่ง ไม่รอช้า กดคันเร่งดูความเร็วปลาย เข็มไมล์ไต่ขึ้นไปอย่างช้าๆ 140-160 ก.ม.ต่อช.ม. ไปจนแตะ 170 ก.ม.ต่อช.ม.ได้อย่างสบายๆ แม้บรรทุกมาเต็มพิกัดก็ตาม

ช่วงล่างนิ่ง หันไปถามผู้โดยสารด้านหลังว่าเชื่อไหมว่าทำความเร็วอยู่กว่า 160 ก.ม. ต่อช.ม. ได้รับคำตอบ นึกว่าวิ่งอยู่สัก 130-140 ก.ม.ต่อช.ม.เสียอีก แสดงให้เห็นว่าแม้จะทำความเร็วสูง แต่ไม่ได้ดูน่ากลัว ด้วยความเสถียรของตัวรถ

ทางขึ้นเขาตะเกียบ ทางชันเล็กน้อย ไม่รอช้า ทดสอบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเสียเลย

บิดปุ่มบริเวณคันเกียร์ไปที่โหมดขับเคลื่อนสี่ล้อ 4H เติมคันเร่งเบาๆ ไต่ขึ้นทางชันในแบบวอล์กกิ้ง สปีด กำลังที่มีอยู่สูงสุด 210 แรงม้า ประกอบกับแรงบิดมหาศาล 500 นิวตัน-เมตร นำพาตัวรถขึ้นไปจนถึงสุดทาง โดยไม่ต้องเค้นหรือเติมคันเร่งหนักๆ เพื่อเพิ่มกำลังแต่อย่างใด

ระบบความปลอดภัยมีมาให้เต็มคัน ไม่ว่าจะระบบรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ระบบควบคุมรถให้อยู่ กลางเลน ระบบเตือนการชนด้านหน้า ไปจนถึงระบบเบรกขณะถอยหลัง ที่แม้จะมีกล้องให้เห็นชัดเจน แต่ได้ระบบนี้เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น

เบ็ดเสร็จทริปทดสอบทำระยะทางไป 698 ก.ม. น้ำมันเหลือวิ่งได้อีก 156 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 11.5 ก.ม.ต่อลิตร ถือว่าประหยัดพอตัวเลยทีเดียวกับการบรรทุกเต็มคัน แถมทำความเร็วไม่ธรรมดา

แวะไปทดสอบพร้อมลองใช้งานอรรถประโยชน์ภายในห้องโดยสารของรถยนต์ที่เรียกว่าอเนกประสงค์ ว่าคุ้มค่า คุ้มราคา กับค่าตัว 1.874 ล้านบาท รวมถึงตรงกับ ความต้องการใช้งานหรือไม่ ได้ที่โชว์รูม ฟอร์ดทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน