ในละคร “รักร้าย” หนุ่ม ‘เจษ’ เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ ไม่ได้เป็นพระเอกแสนดี แต่มาแบบก้ำกึ่งคาดเดาไม่ได้ว่าจะร้ายหรือจะดี ซึ่งเจ้าตัวบอกเลยไม่กังวลกระทบฉายา “พระเอกสามีแห่งชาติ”

ส่วนเรื่องความรักกับแฟนสาวคนสวย ‘วิว’ วรรณรท สนธิไชย ที่คบกันมาได้ 4 ปีแล้ว มองอนาคตไว้ร่วมกันอย่างไร เจ้าตัวมีคำตอบ

◆ พลิกจากพระเอกแสนดี แอบมีเคมีร้ายๆ ยากจะเดา ตอนที่ต้องตีความตัวละครออกมาเป็นการแสดงยากไหม?
เจษ – “ยากมากๆ เพราะแต่ละบทที่เคยเล่นมาเราจะเข้าใจตั้งแต่ต้นเลยว่าจะต้องมาทรงไหน แต่เรื่องนี้ส่วนหนึ่งเพราะบทด้วย ต้องขอบคุณพี่เจี๊ยบ (วรรธนา) ที่เขียนมาดีขนาดนี้ เราพยายามเข้าใจ ธีรกิจ ให้มากๆ จนสุดท้ายเราไม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนดีหรือคนร้าย แต่เขาเป็นแค่คน คนหนึ่งที่เคยมีชีวิตมาแบบนี้เลยต้องทำแบบนี้ในปัจจุบัน”

◆ ก้ำกึ่งดีร้ายแบบนี้กลัวเขย่าฉายา พระเอกสามี แห่งชาติ ไหม?
เจษ – “ไม่เลยครับ สำหรับผมอยากเป็นนักแสดงที่ดี พอได้บทนี้มาแทบไม่ได้คิดเลยว่ามันเป็นอะไรหรือเปล่ากับบทบาทพระเอกที่เราเคยเล่น เพราะรู้สึกว่าอยากไปไกลกว่านี้ อยากเอ็นจอยกับการแสดงมากกว่านี้ มุมมองของผมในฐานะนักแสดงคนหนึ่งเราไม่ได้อยากเป็นบทคนดีน่าสงสารหรือบทคนดีไปตลอดทุกเรื่องผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ท้าทายและไม่ได้พัฒนาตัวเองไปมากกว่าเดิม วงการเรามันเปลี่ยนได้ในแง่มุมของพระเอก ไม่ได้จำเป็นต้องเป็นพระเอกตลอดเวลา”

◆ ร่วมงานกับตัวท็อปอย่าง ใหม่ ดาวิกา, แหม่ม คัทลียา, มิว ศุภศิษฏ์ และ ลิลลี่ ภัณฑิลา แต่ละคนเป็นยังไงบ้าง?
เจษ – “ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้เล่นกับใหม่ก็คิดว่าเขาคงเป็นคนเงียบๆ แต่กลายเป็นเขาชวนเราคุยจนรู้สึกว่าคนนี้เฟรนด์ลี่จังเลย และในแง่การแสดงใหม่เป็นคน เก่งมาก ส่วนพี่แหม่มเคยเจอกันหลายเรื่องแล้ว ผมเองก็ดีใจที่ตัวละครดั่งวาด เป็นพี่แหม่ม ด้วยคาแร็กเตอร์ทุกอย่างมันต้องเป็นพี่แหม่ม”








Advertisement

“ส่วนมิวคล้ายใหม่ ตอนแรกคิดว่าเงียบ แต่เป็นคนตลกมากและเนิร์ดๆ หน่อย มิวน่ารักและเป็นเพื่อนอีกคนในวงการที่แฮปปี้ที่ได้ทำงานด้วย รู้สึกได้เลยว่าเขาเป็นคนเก่งอีกคนหนึ่ง ส่วนลิลลี่เจอกันมานานมากๆ เป็นเพื่อนรักคนหนึ่งในวงการ เราเข้ามาพร้อมกันตั้งแต่ยังไม่เป็นช่องวันเลย เรียนการแสดงมาด้วยกัน ทุกครั้งที่ได้เจอก็แฮปปี้ ผมไม่เจอลิลลี่นานมาก เรื่องล่าสุดน่าจะเกือบสิบปี พอมาเจอครั้งนี้รู้สึกว่าเขาเก่งขึ้นเยอะมากๆ ทุกคนเป็นพาร์ตเนอร์ที่ทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นมากๆ เลยครับ”

◆ ไม่ใช่แค่เป็นนักแสดง ขึ้นแท่นนักร้องแล้ว “จักรวาลคู่ขนาน” คนชมเยอะว่าเสียงดีเพลงเพราะ?
เจษ – “จริงๆ เป็นทางที่เราสบายตัวมาก หมายถึงแง่มุมของการเล่นดนตรี ไม่ใช่ร้องเพลง คือผมเป็นนักดนตรี ตีกลอง เราจะรู้สึกแฮปปี้ทุกครั้งที่ได้เล่นดนตรี เลยตัดสินใจทำเพลงออกมา แต่สุดท้ายแล้วเรามานั่งตีกลองอาจจะไม่มีใครดู เลยต้องร้องเองด้วยก็ต้องฝึกฝนเยอะอยู่”

◆ อัพเดตหน่อยความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
เจษ – “คบกันมา 4 ปีแล้ว เร็วเหมือนกัน แฮปปี้ดีครับ เข้าใจกันขึ้นเรื่อยๆ คบกันแล้วก็โตเป็นผู้ใหญ่กันทั้งคู่ มีความสุขกับเรื่องง่ายๆ มากขึ้น ทำให้อะไรหลายๆ อย่างเป็นไปในทิศทางที่ดีครับ”

◆ ล่าสุดเห็นไปเที่ยวฮ่องกงด้วยกันมา ครั้งแรกที่ไปต่างประเทศด้วยกันเลยจริงๆ เหรอ?
เจษ – “ใช่ครับ เพราะผมไม่ค่อยได้ไปไหน เขาจะรู้ว่าส่วนตัวผมถ้าไม่มีงานก็กลับบ้าน ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูงอยู่ แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน เขาก็จะไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่จังหวะพอดีว่าใหม่ มิว ลิลลี่ อยากไปทำบุญให้ละครกัน ผมเลยชวนเขาไปด้วย”

◆ มองอนาคตร่วมกันไว้แค่ไหน?
เจษ – “จริงๆ ไม่ได้แพลนอะไรเลย แค่พยายามแก้ปัญหาทุกๆ วันที่เจอ แล้วก็ให้ต่างคนต่างโตขึ้นต่างซัพพอร์ตกันมากขึ้น ถ้ามันถึงเวลาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ก็คงไม่ได้ทิ้งไปไกลเกินแบบแต่งงานอายุ 50 ก็ไม่ใช่ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็พยายาม ทำทุกวันให้ดี เพราะผมรู้สึกว่าถ้าไปตั้งเป้า ตรงโน้น แล้วถ้าเราทำวันนี้ได้แบบไม่ดีพอ มันก็ไม่มีวันถึงข้างหน้าหรอกครับ”

◆ ความรักของเจษคืออะไร?
เจษ – “ความรักสำหรับผมคือคนที่มาเติมเต็ม ไม่ใช่เติมเต็มในส่วนที่ขาด แต่เติมเต็มชีวิตทั้งหมดที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เพราะว่าบางคนไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร ผมเคยได้ฟังที่พี่โอม (ค็อกเทล) พูดว่า ‘แต่ให้รู้ไว้ว่ามีเขาแล้วดีกว่าเสมอ’ มันจะเป็นอย่างนั้น ไม่อยากให้กลายเป็นว่าไม่มีใครสักคนแล้วอยู่ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเราจะเหมือนดึงรั้งกันไว้เปล่าๆ ซึ่งมันอึดอัดเกินไปหน่อยสำหรับผม”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน