ไอคิวทะลุฟ้า - เด็กตรังร้อยลูกปัดมโนราห์ เครื่องประดับ-ของที่ระลึก

หลังจากยูเนสโกประกาศรับรองขึ้นทะเบียนมโนราห์ หรือโนรา เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ทำให้ความนิยมพุ่งขึ้น เด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ใช้เวลาว่างร้อยลูกปัดมโนราห์เป็นเครื่องประดับ ของที่ระลึก ขายดีจนผลิตแทบไม่ทัน

เนื่องจากหลายพื้นที่ของจังหวัดตรังโดยเฉพาะใน อ.นาโยง จัดตั้งคณะมโนราห์ หรือโนราอยู่จำนวนมาก พร้อมทั้งสืบทอดการแสดงพื้นบ้านดังกล่าวต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน และมีการจัดตั้งโรงมโนราห์กลางชื่อว่า “บ้านมโนราห์” ในพื้นที่ตำบลโคกสะบ้า ซึ่งถือเป็นตำบลที่มีคณะมโนราห์มากที่สุดในจังหวัดตรัง รวม 8 คณะ โดยมีนางราตรี หัสชัย อดีตครูโรงเรียนวัดไทรทอง รับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญของชุมชน เสียสละแรงกายและแรงใจเพื่อสอนสั่งเด็กๆ และเยาวชนในพื้นที่ให้หวนกลับมาเรียนรู้เรื่องมโนราห์

นอกจากการแสดงและการสอนร่ายรำมโนราห์พร้อมการแสดงลูกคู่ครบเครื่องเพื่อให้นักท่องเที่ยวชมแล้ว ยังนำเด็กๆ เยาวชนและผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 7-75 ปี ประมาณ 25 คน มาเรียนรู้การร้อยลูกปัดมโนราห์ โดยประยุกต์จากการ ทำเครื่องแต่งกายในการแสดงหรือการร่ายรำมาเป็นของที่ระลึก เพื่อให้สอดรับกับตลาดในยุคปัจจุบัน ทั้งรูปแบบที่สวยงาม แปลกตา และราคาที่จับต้องได้ หลังดำเนินการ ไม่กี่ปีได้รับความนิยมมากจนบางครั้งผลิตสินค้าไม่ทันความต้องการ

ครูราตรีเผยว่า เด็กๆ และเยาวชนรุ่นใหม่จะร้อยลูกปัดมโนราห์ได้สวยงามเทียบเท่าผู้ใหญ่ แถมบางคนยังก้าวไกลไปถึงขั้นร้อยออกมาเป็นเครื่องแต่งกายมโนราห์เลย ทีเดียว แต่ที่ขายดีส่วนใหญ่จะเป็นพวงกุญแจ สายแมสก์ สร้อยข้อมือ สร้อยคอ กำไล เครื่องประดับ กระเป๋า ราคาตั้งแต่ชิ้นละ 25 บาทจนถึงกว่า 1 พันบาท มีทั้งลายโบราณและลายประยุกต์ ล่าสุดยอดขายอยู่ที่เดือนละ 1 หมื่นบาท และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังสถานการณ์ โควิดเบาบางลง พร้อมเร่งปรับปรุงให้เป็นศูนย์เรียนรู้และจำหน่ายลูกปัดมโนราห์ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง

เนื่องจากเด็กๆ และเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมร้อยลูกปัดมโนราห์จะมีเวลาว่างเฉพาะช่วงเย็นในวันปกติ และวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อีกทั้งต้องใช้เวลาทำในแต่ละชิ้นไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง เนื่องจากเป็นสินค้าทำมือและ มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นในขณะที่ความต้องการมีสูง ประกอบกับการที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้มโนราห์เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติยิ่งทำให้กระแสความนิยมสูงขึ้น จึงขยายกิจกรรมร้อยลูกปัดมโนราห์ออกไปยังกลุ่มผู้สูงอายุเพื่อให้ผลิตสินค้าได้มากขึ้นเพียงพอต่อความต้องการ

เมธี เมืองแก้ว