นอกจากจะบินลัดฟ้าเพื่อร่วมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์แล้ว ‘ฌอง ฟิลิปป์ ปาแร็ง’ รองประธานอาวุโสฝ่ายการขาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

ยังตั้งใจมาดูให้เห็นกับตา ว่าตลาดรถยนต์เมืองไทยมีดีอะไร ถึงทำให้ค่ายกังหันฟ้า-ขาว บีเอ็มดับเบิลยู เติบโตดีวัน ดีคืน แถมยังสร้างยอดขายจนกอดแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน และ ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ได้รับเทียบเชิญให้ร่วมสัมภาษณ์อย่างใกล้ชิด

มาฟังวิสัยทัศน์ของผู้บริหารอารมณ์ดีกันว่าจะนำพาค่ายกังหันสีฟ้าในภูมิภาคนี้เดินหน้าต่อไปอย่างไร

◆ ผลงานเมื่อปีที่แล้ว
โดยภาพรวมตลาดที่ดูแลอยู่ มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 6% และมีอยู่ถึง 8 ประเทศที่เติบโต ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย เกาหลีใต้ โดยมาเลเซียมีอัตราเติบโตสูงสุด และไทย ที่มีอัตราเติบโตสูง อีกทั้งยังครองแชมป์ยอดขายตลาดรวมรถยนต์ระดับหรู เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันด้วย สำหรับปีนี้ 2 เดือนแรกที่ผ่านมา ยอดขายเฉพาะรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย มีอัตราเติบโตอยู่ที่ 26% สูงที่สุดเมื่อเทียบกับ บีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลก และเชื่อมั่นว่ายอดขายบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทยปีนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างแน่นอน

◆ ประสบความสำเร็จมาก
เป็นผลมาจากความมั่นใจของผู้บริโภคที่ดีขึ้น ภาคการลงทุน ขยายตัว อีกทั้งทีมงานบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้ส่งรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งาน ให้ กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ที่เรียกว่า เพาเวอร์ ออฟ ช้อย

มีให้เลือกทั้งรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในสมรรถนะสูง รถยนต์เทคโนโลยี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่ได้รับการตอบรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายหลักในปัจจุบัน ไปจนถึงไฟฟ้า 100% ที่วันนี้มีให้ลูกค้าคนไทยเลือกมากถึง 6 รุ่น ทั้ง iX i4 i7 เป็นต้น

ประกอบกับการทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่าย ที่มีความแข็งแกร่ง และพร้อมที่จะลงทุนขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนาบริการหลังการขาย ให้มีมาตรฐาน และประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยดูได้จากค่าความพึงพอใจของลูกค้าที่เข้าใช้บริการ ซึ่งได้สำรวจจากลูกค้า 45,000 ราย พบว่าให้คะแนนความพึงพอใจ ทั้งในด้านการขาย และบริการหลังการขายสูงสุด

◆ รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยูให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้ตั้งเป้าสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ 15% ของยอดขายรวม จากปัจจุบันอยู่ที่ 10%

ขณะที่ประเทศไทยมีความท้าทายค่อนข้างมาก เพราะปัจจุบันสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 8% แต่ถือว่าเป็นการบ้าน ที่ทำอย่างไร จึงจะไปให้ถึงเป้าหมาย

ทั้งนี้ มองว่าในส่วนของนโยบาย การสนับสนุนต่างๆ ควรมีความชัดเจน และไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาว

ความต่อเนื่องเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน