อีกนโยบายในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ที่เป็นประเด็นตอบโต้กันร้อนแรง คือ การประกาศยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ ซึ่งพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล เปิดประเด็นนี้มาตลอด ต่อมาพรรคเพื่อไทยก็ประกาศเป็นนโยบายในช่วงการหาเสียงนี้ด้วยเช่นกัน

ขณะที่พรรคการเมืองและนักการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยม นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมายืนยันว่าจะต้อง มีการเกณฑ์ทหารต่อไป ทำนองว่าไม่มีประเทศไหนในโลกนี้ ที่ไม่มีทหาร

บ้างก็ไปไกลถึงขั้นว่า การเกณฑ์ทหาร คือเรื่องรักชาติ !?!

พูดง่ายๆ ว่า พรรคฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ผลักดันการยกเลิกเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ

ขณะที่ฝ่ายอนุรักษนิยมการเมือง ปกป้องระบบเดิมอย่างแข็งกร้าว อ้างเรื่องชายไทยต้องเสียสละเพื่อชาติทำนองนั้น

การปะทะกันของ 2 แนวทางนี้ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจวันเลือกตั้ง!!

ขณะที่ในความเป็นจริง ภาพข่าวการเกณฑ์ทหารที่เราเห็นกันเป็นประจำสม่ำเสมอ คือ ใครรอดทหาร หรือจับได้ใบดำ จะดีอกดีใจกันสุดเหวี่ยง

ส่วนใครจับได้ใบแดง ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ เข่าอ่อน ล้มทรุด เหมือนหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง

เป็นภาพสะท้อนความจริงของชีวิต ไม่เกี่ยวกับเป็นคนรักชาติหรือไม่รักชาติอะไรเลย!

เพราะชายหนุ่มโดยส่วนใหญ่ มีความจำเป็นทางอาชีพการงาน เป็นช่วงสำคัญในการสร้างเนื้อสร้างตัว

การเป็นคนมีอาชีพการงานดี สร้างสรรค์สังคม เป็นพลเมืองมีคุณภาพ นี่คือการดูแลประเทศชาติด้วยแน่นอน!!

ขณะเดียวกัน การยกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นสมัครใจ ก็ถือว่าอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง

ด้วยทุกวันนี้มีผู้สมัครใจเป็นทหารจำนวนไม่น้อย ด้วยเหตุผล ใจรักในเครื่องแบบทหาร นิสัยใจคอชอบบู๊ชอบรบ

อีกจำนวนไม่น้อย ถือว่าทหารเป็นอีกอาชีพที่มีเกียรติ ได้ปกป้องประเทศชาติ ทั้งมีรายได้ มีสวัสดิการมีเงินบำเหน็จบำนาญ ดีกว่าอยู่อย่างคนตกงาน หรือทำงานที่มีรายได้ไม่พอเพียง

แต่ในกรณีของเหล่าหนุ่มไทยวัยฉกรรจ์ ที่มีเส้นทางอาชีพการงานในโลกยุคใหม่ กำลังอยู่ในช่วงสร้างอนาคต ซึ่งมีจำนวนกว้างขวาง

คนเหล่านี้ย่อมถูกใจนโยบายการหาเสียงที่ให้เลิกบังคับเกณฑ์ทหาร

อีกประการต้องยอมรับว่า นับจากพล.อ.ประยุทธ์ เข้าสู่อำนาจ เมื่อปี 2557 และยังอยู่ต่อด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ให้ 250 ส.ว.มีสิทธิโหวตนายกฯ

เป็นการยึดครองอำนาจของเครือข่ายทหาร ทำให้กองทัพพัวพันการเมือง และกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับฝ่ายประชาธิปไตย

พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มายาวนาน 8-9 ปี จนเข้าสู่ช่วงขาลง

ย่อมฉุดภาพของกองทัพให้ทรุดตามไปด้วย

นโยบายหาเสียงที่มุ่งปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกองทัพ ย่อมตรงใจคนรักประชาธิปไตยและผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง!!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน