เอเอฟพีรายงานวันที่ 1 พ.ค. ว่า นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลชาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่าจะส่งผู้แทนทางการทูตไปยังซูดาน ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะที่ยังดุเดือดและยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่สาม โดยเฉพาะในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของประเทศ แม้กองทัพซูดานกับกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (อาร์เอสเอฟ) ตกลงขยายเวลาหยุดยิงเพิ่มอีก 72 ชั่วโมง หลังข้อตกลงหยุดยิงก่อนหน้าสิ้นสุดลงเมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ ผู้ประสานงานบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของยูเอ็น ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น ผู้แทนทางการทูต กล่าวว่า “สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมของซูดานกำลังถึงจุดแตกหัก ผมกำลังเดินทางไปภูมิภาคนี้เพื่อสำรวจว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้คนหลายล้านคนที่ชะตาชีวิต พลิกผันชั่วข้ามคืนได้อย่างไร” นายกริฟฟิธส์ระบุเพิ่มเติมว่าการปล้นสะดมสำนักงานและโกดังเก็บสิ่งของสำหรับกิจกรรมด้านมนุษยธรรมจำนวนมาก ทำให้เสบียงส่วนใหญ่ร่อยหรอ ยูเอ็นกำลังเร่งหาทางในการนำเข้าและแจกจ่ายเสบียงแก่พลเรือนที่ได้รับผลกระทบ วิธีแก้ปัญหา ที่ชัดเจนที่สุดคือหยุดการต่อสู้ ถึงอย่างนั้นฝ่ายกองทัพและอาร์เอสเอฟยังโจมตีกันต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 550 ราย เกิน 4,200 คนบาดเจ็บ หลายหมื่นคนหนีตาย
ด้านนายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกยูเอ็น ระบุในถ้อยแถลงแต่งตั้งนายกริฟฟิธส์ว่า “เมื่อพิจารณาถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่รุนแรงอย่างรวดเร็วในซูดาน ทูตจะเดินทางไปยังภูมิภาคดังกล่าวทันที ขนาดของผลกระทบและความรวดเร็วของการปะทะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในซูดานทำให้เรากังวลมาก” นายกริฟฟิธส์เสริมด้วยว่าพลเรือนประสบปัญหาการเข้าถึงน้ำ อาหาร เชื้อเพลิง และสิ่งของจำเป็น บางคนไม่สามารถย้ายถิ่นฐานได้เพราะไม่มีค่าเดินทาง และว่าตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสารน้ำที่ให้ทางเส้นเลือดและสิ่งของบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน 5 ตู้ เทียบท่าเรือที่พอร์ตซูดานเพื่อรออนุญาตจากทางการซูดานและนำไปแจกจ่ายแก่พลเรือน
