การพลิกฟื้นบทเพลง “หนักแผ่นดิน” ของหน่วยดุริยางค์ทหารบก มีความน่าสนใจยิ่ง

เป็นความสนใจในบรรยากาศแห่งการเคลื่อนไหวการเมืองในเรื่อง “การเลือกตั้ง” มีความเข้มข้น คึกคัก หนักแน่นและจริงจัง

ท่ามกลางคะแนนของพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย โลดทะยาน

ท่ามกลางคำปราศรัยอันร้อนแรงเสนอแนวทาง “ไล่คนออกนอกประเทศ” จาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จากสวนป่ากลางเมืองไปถึงเวทีหาเสียงชลบุรี

ยิ่งฟังจาก นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ยิ่งได้อารมณ์

เป็นอารมณ์เหมือนก่อนรัฐประหาร 2519 และก่อนรัฐประหาร 2557

เพราะก่อนรัฐประหารเดือนตุลาคม 2519 บทเพลง “หนักแผ่นดิน” โดยนักร้องจากหน่วยดุริยางค์ทหารบก กึกก้องกังวานอย่างยิ่ง

และตกมาถึงมืออย่างคึกคักในยุคแห่ง “กปปส.”








Advertisement

รัฐประหารเดือนตุลาคม 2519 ดำเนินไปอย่างชนิดนองเลือด รัฐประหารยังต่อเนื่องมาถึงเดือนพฤษภาคม 2557

จึงเกิดคำถามว่าทำไมต้องปล่อยเพลง “หนัก แผ่นดิน”

หากมองผ่าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อาจเห็นเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ

หากมองผ่านพรรครวมไทยสร้างชาติย่อมมองเห็นภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นแคนดิเดต “นายกรัฐมนตรี” ของพรรค

สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ย่อมรู้กันอยู่เป็นอย่างดี

โดยพื้นฐานก็คือ การเคยดำรงตำแหน่งเป็น “ผู้บัญชาการทหารบก” และเคยเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

สร้างความสงบจาก “รัฐประหาร” มาแล้ว

การปรากฏของบทเพลง “หนักแผ่นดิน” จากหน่วยดุริยางค์ทหารบกจึงเป็นคำถาม

ไม่เพียงเป็นคำถามถึง “กองทัพบก” หากแต่ยังเป็นคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคำถามถึง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

หรือนี่จะเป็นจังหวะก้าวหนึ่งในการเอาชนะ “การเลือกตั้ง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน