ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.นราธิวาสว่า กลางดึกวันที่ 9 พ.ค. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค แยกกันเป็นเปิดเวทีคู่ขนานปราศรัยหาเสียงเป็น 2 เวที จุดแรกที่บริเวณสนามกีฬาจำปากอ ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ หาเสียงช่วยนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ผู้สมัครส.ส.เขต 5 เบอร์ 4 จุดที่ 2 ที่อาคารอเนกประสงค์ บ้านดุซงญอ อ.จะแนะ ช่วยนายกูเฮง ยาวอฮะซัน ผู้สมัครส.ส.เขต 4 เบอร์ 3

การการปราศรัยมีนายอารีเพ็ญ อุตรสินธ์ นายวรวีย์ มะกูดี นายมุข สุไลมาน รองหัวหน้า ปช. และนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ อดีตรองอธิบดีอัยการ ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ช่วยตระเวนสลับสับเปลี่ยนกัน ขึ้นเวทีปราศรัยคู่ขนานในครั้งนี้ด้วย โดยได้รับความสนใจจากประชาชน นับหมื่นคน แม้จะมีฝนตกลงมาไม่ขาดสาย

พ.ต.อ.ทวี ปราศรัยชูนโยบายพรรคคือพรรคพหุวัฒนธรรม พรรคประชาชาติไม่ใช่เป็นพรรคเฉพาะกิจ และเป็นคนพื้นที่ อยู่และสัมผัสเหตุการณ์ความไม่สงบ การแก้ปัญหาความรุนแรงมานาน การที่รัฐ ใช้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึกไม่ได้แก้ปัญหาอะไรมากมายนอกจากเพิ่มปัญหา และสร้างปัญหากระทบให้กับประชาชนในการใช้ชีวิต ดังนั้น พรรคประชาชาติเมื่อเป็นรัฐบาลจะผลักดันให้ยกเลิกกฎอัยการศึก และพ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ผลักดันเป็นพ.ร.บ.สันติภาพ แทน

นอกจากนี้พรรคประชาชาติให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน คนระดับรากหญ้าสามารถลืมตาอ้าปาก ถึงเวลาแล้วถ้าเลือกก็เลือกทั้งพ่อทั้งลูก คือ เลือกผู้สมัคร ส.ส.เขต และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากสัญญาใจที่พี่น้องประชาชนให้คำมั่นสัญญาครั้งนี้ เชื่อว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคประชาชาติจะได้ ส.ส.เขต เข้าไปเป็น ปากเสียงแทนพี่น้อง 13 คน หรือแลนด์สไลด์ในชายแดนใต้บ้านเรา

นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 จ.นราธิวาส พรรคประชาชาติ กล่าวว่า หากพี่น้องประชาชนให้โอกาสตนจะเข้าไปเป็นปากเป็นเสียง แต่ไม่มีหน้าที่กินถนน กินปูน กินสะพาน รับทรัพย์ รับเปอร์เซ็นต์เหมือนบางคน และขอโอกาสพี่น้องเลือกผู้สมัครของพรรคประชาชาติมาทำหน้าที่ ขอให้ลงคะแนนเลือกตั้งผู้สมัครเขตและพรรค เพราะเป็นพรรคเดียวของคนชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง

จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ขึ้นปราศรัยโดยได้รับการปรบมือ และเสียงเชียร์ตลอดเวลา พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า เรามีข้อมูลข้าราชการบางคนในเขต 5 นราธิวาส ทำตัวไม่เป็นกลาง มีการเรียกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอื่นๆ ให้ลงคะแนนเสียงให้พรรคหนึ่ง ทำหน้าที่หาเสียง ทั้งที่เป็นข้าราชการประจำ จึงฝากเตือนข้าราชการคนดังกล่าว และข้าราชการในพื้นที่ทุกส่วน นับแต่ผู้ว่าฯนราธิวาส นายอำเภอ หรือข้าราชการทุกส่วน ทำหน้าที่เป็นกลาง หากยังดำเนินการไม่เป็นกลาง พรรคต้องดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน หากอยากหาเสียง ให้ลาออกจากราชการแล้วมาสมัครแข่ง ส.ส.ตามกรอบกติกากฎหมาย ไม่ควรใช้อำนาจหน้าที่ ไม่เป็นกลางอย่างเด็ดขาด

นายวันนอร์กล่าวว่า ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้แกนนำวิ่งรอก ขึ้นปราศรัยทุกวันจนถึง 12 พ.ค. โดยลงพื้นที่หาเสียงตั้งแต่เช้า 1-3 จุด จากนั้น 20.00 น. ทุกวันก็ไปขึ้นเวทีปราศรัยทุกวันตนและ พ.ต.อ.ทวี จะนำส.ส.และผู้บริหารพรรควิ่งรอก โดยเฉพาะคืนที่ผ่านมา มีเวทีปราศรัยที่สนามหน้า อ.สุไหงปาดี มีชาวเจาะไอร้อง แว้ง และสุไหงปาดีมาร่วม และวันที่ 11 พ.ค. มีแผนเปิดเวทีปราศรัย ที่สนามหน้าที่ว่าการ อ.รามัน ช่วยนายซูการ์โน มะทา ผู้สมัครเบอร์ 11 ส่วนวันที่ 12 พ.ค. จะจบเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬาอบจ.ปัตตานี เพื่อให้ประชาชนทั้ง 3 จังหวัดมาร่วมรับฟังนโยบาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน