เชื่อว่าผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ถ้าไม่มีเหตุติดขัดจริงๆ คงไม่มีใครพลาดโอกาสสำคัญ ในการมีส่วนร่วมกำหนดชะตากรรมบ้านเมืองด้วยมือของ เราเอง ด้วยการเดินเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง ทั้งมีแนวโน้มสูงมากว่า อาจจะมีเปอร์เซ็นต์ผู้ไปใช้สิทธิ์ในครั้งนี้สูงมากเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว
เพราะบรรยากาศช่างคึกคักเร้าใจเป็นอย่างมากตลอดช่วงที่ผ่านมา
แถมมีแรงกระตุ้นสำคัญ คือ คนส่วนใหญ่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเป็นประชา ธิปไตยที่เสรีมากขึ้น ความเจริญก้าวหน้า และชีวิตปากท้องที่ดีขึ้น
นี่เองทำให้ผู้มีสิทธิ์ทุกท่าน อยากเข้าร่วมในวันประวัติศาสตร์ครั้งนี้
จะอุดมการณ์ซ้ายหรือขวา แนวก้าวหน้าหรืออนุรักษ นิยมการเมือง ชอบคนรุ่นใหม่ คนทันสมัย หรือต้องการคนรุ่นเก่าๆ ไปร่วมตัดสินในคูหา
ที่สำคัญวันเลือกตั้งนี่แหละ ไม่ว่าเศรษฐีไฮโซหรือคนจนเดินดิน ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน 1 คน 1 เสียงเหมือนๆ กัน!
เข้าคูหากาบัตร 2 ใบ เสร็จแล้วกลับมาอาบน้ำประแป้ง รอลุ้นผลกันที่บ้าน
ดูการรายงานการนับคะแนนหลังปิดหีบ 5 โมงเย็น
เชียร์กันลุ้นกัน โดยดูผ่านเครือข่ายออนไลน์ของเครือมติชนและข่าวสด ทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งจะรายงานผลอย่างรวดเร็วฉับไว
พร้อมด้วยนักคิดนักวิเคราะห์ ถึงแนวโน้มหลังเห็นผลเลือกตั้ง
ใครจะเป็นแกนหลักตั้งรัฐบาล จับขั้วกับพรรคไหน อย่างไร มาขบคิดวิเคราะห์กัน!
ประเภทที่มีข่าวออกมาก่อนเลือกตั้ง จะมีรัฐบาลเสียง ข้างน้อยจับมือกับ 250 ส.ว.ชิงตั้งรัฐบาล จะเป็นไปได้หรือไม่
อันจะบ่งชี้ได้ว่า การเมืองหลังเลือกตั้งจะร้อนแรงเดือดระอุหรือไม่
ถ้าเล่นกลเกมกัน โดยไม่เคารพเสียงของประชาชนที่ไปเข้าคูหากาคะแนน ต้องประเมินให้ดีว่า จะเกิดอะไรตามมา!?!
กระแสของประชาชนในปี 2566 นี้ แรงกว่าปี 2562 หลายเท่า
แต่ก็นั่นแหละ มีความเคลื่อนไหวบางอย่างที่บ่งบอกว่า อาจมีสูตรรัฐบาลแนวผสมผสานปรองดองเกิดขึ้น
อาจมีสูตรประนีประนอมรอมชอมกันแบบสุดๆ
โดยเฉพาะย่างก้าวของทักษิณ ชินวัตร ที่จะขออนุญาตกลับมาเลี้ยงหลาน โดยยินยอมเข้ากระบวนการยุติธรรม
ทั้งหลายทั้งปวงถ้าเป็นจริงขึ้นมา ย่อมแปลว่าการเมืองจะมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ
ที่แน่ๆ ก่อนจะลุ้นว่าหลังเลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้น
ต้องแห่ไปเลือกตั้งกันให้เสียงประชาชนบ่งชี้การเมืองอย่างท่วมท้นชัดเจนเสียก่อน!
