สําหรับผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เลือกตั้งล่วงหน้า หรือ เลือกตั้งในวันจริงวันที่ 14 พ.ค. จะต้องแจ้งเหตุที่ไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้เสียสิทธิบางประการ
ได้แก่ ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ลงสมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับ ทั้งในหน่วยงานองค์การปกครองท้องถิ่นและการเลือกตั้งสำคัญระดับประเทศ
สิทธิในการสมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง รวมถึงตำแหน่งอื่นใดในองค์กรการปกครองท้องถิ่น
การจำกัดสิทธิดังล่าว มีกำหนดเวลาครั้งละสองปี นับแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หากในการเลือกตั้งครั้งต่อไปยังไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีก ระยะเวลาการจำกัดสิทธิครั้งหลังก็นับจากวันที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนั้น
สํ าหรับเหตุอันสมควรที่ทำให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่ได้นั้น ระบุว่าเป็นผู้มีกิจธุระจําเป็นเร่งด่วนต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล ผู้ป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
ผู้พิการหรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรผู้มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเดินกว่า 100 กิโลเมตร และ ผู้ประสบเหตุสุดวิสัย เช่น อุทกภัย วาตภัย เป็นต้น
การแจ้งเหตุไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นให้แจ้งเหตุก่อนหรือหลังวันเลือกตั้งภายใน 7 วัน หรือทําหนังสือชี้แจงเหตุที่ทำให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ โดยระบุเลขประจําตัวประชาชนและที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
จากนั้น ยื่นหนังสือต่อนายทะเบียนอําเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นด้วยตนเองหรือมอบหมายผู้อื่น หรือส่งทางไปรษณีย์ ลงทะเบียน หรือแจ้งทางอินเตอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์ www.bora.dopa.go.th
สําหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ กรมการปกครอง เปิดเผยว่ามีทั้งสิ้น 52,241,808 คน โดยกลุ่มที่เกิด ระหว่างพ.ศ.2506-2526 มากที่สุด 20,882,235 ราย และกลุ่มที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2527-2546 จำนวน 17,983,355 ราย
คณะกรรมการการเลือกตั้งประมาณการโดยคาดการณ์จากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากว่าร้อยละ 90 ว่าการเลือตั้งครั้งน่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 85
ดังนั้น จึงอาจมีผู้ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 15 ล้านคน บางส่วนอาจเป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยผู้พิการที่ไม่อาจดินทางไปใช้สิทธิ แต่บุคคลปกติที่ไม่อาจไปใช้สิทธิก็มีเป็นจำนวนมากเช่นกัน
การแจ้งเหตุที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จึงมีความสำคัญ เพื่อไม่ให้เสียสิทธิตามกฎหมายตามที่กล่าวมาข้างต้น แม้ว่าจะพ้นข้อกำหนดดังกล่าวเมื่อมีการใช้สิทธิเลือกตั้งอื่นครั้งใหม่ก็ตาม
