ในโลกยุคดิจิทัล การค้าขายทางออนไลน์ หรือ อี-คอมเมิร์ซ เติบโตขึ้นชนิดก้าวกระโดด ทุกอย่างสะดวกสบายขึ้นเพียงแค่ปลายนิ้วกด แน่นอนว่าเหรียญย่อมมีสองด้าน เหล่ามิจฉาชีพก็ปรับตัวแผงมาในรูปของพ่อค้า ขั้นต้อนการล่อลวงก็ซับซ้อนขึ้น
เช่น เรื่องราวของโจรออนไลน์ในตำนานรายนี้ที่เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ภายหลัง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. หัวหน้า ชุด PCT 1 แถลงการจับกุมนายวิวัฒน์ พรหมปากดี หรือ เอ๊ดดี้ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ที่มีหมายจับกว่า 13 หมายจับ (มีผลบังคับใช้ 10 หมายจับ) หลังได้รับแจ้งจากประชาชนผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ว่าถูกคนร้าย โพสต์ขายสินค้าออนไลน์ในเพจขายสินค้ากลุ่มต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นวัตถุมงคล เช่น พระเครื่อง ฯลฯ
โพสต์หลอกเหยื่อ
โดยคนร้ายใช้วิธีการซับซ้อนแยบยล ปลอมเฟซบุ๊กหลายบัญชี เช่น “หจก.วัสดุภัณฑ์จำกัด”, “Ajarn Wattharungsilp”, “Ajarn Subthawee”, “ทรัพย์ การค้า” และ “คนสีเทา แต่ใจอบอุ่น” โดยใช้กลอุบายคือ ไปสั่งสินค้าชนิดอื่นจากร้านค้าออนไลน์อื่นในราคาถูกและส่งให้เหยื่อ แล้วให้เหยื่อโอนเงินให้กับร้านค้าออนไลน์ของจริง แต่จะเป็นยอดเงินสูงกว่ายอดเงินที่แท้จริง จากนั้นก็ให้ร้านค้าออนไลน์ดังกล่าวโอนเงินส่วนเกินให้กับคนร้าย
ก่อเหตุมาหลายครั้ง ชาวเน็ตเอาชื่อไปโพสต์แจ้งให้ระวัง แต่ก็ยังไม่เคยถูกจับได้ จนได้ฉายาว่า “โจรออนไลน์ในตำนาน”
เปลี่ยนชื่อเฟซฯ หลอก
พล.ต.ต.พันธนะ เผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีนโยบายเร่งปราบปรามคนร้ายที่หลอกลวงทางออนไลน์ สร้างความเสียหายให้ผู้บริโภคและลงความน่าเชื่อถือให้การค้าขายทางออนไลน์
ตนในฐานะหัวหน้าชุด PCT 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT 1 นำโดย พ.ต.ต.ภูริศ คำหมื่น สว.กก.2 บก.สส.สตม. พ.ต.ต.โกเมน วรรณบวร สว. (สอบสวน) กก.สส.บก.ตม.4 ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ มาเม่น นว. (สบ 1) ผบก.สอท.3, ร.ต.ท.นันทวัฒน์ สนแจ้ง รอง สว.กก.3 บก.สส.สตม. ออกสืบสวนติดตามคนร้ายที่มีพฤติกรรมดังกล่าว จนทราบว่าคือ นายวิวัฒน์ พรหมปากดี หรือ เอ๊ดดี้ อายุ 30 ปี
Advertisement
นาทีล็อกตัว
จากการตรวจสอบในระบบสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (Crimes) พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 13 หมายจับ (มีผลบังคับใช้ 10 หมายจับ) และพบข้อมูลในโซเชี่ยลมีเดียว่าฉ้อโกงบุคคลอื่น และยังหลบหนีซ่อนตัวอยู่ และก่อเหตุมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว มีผู้เสียหาย เป็นจำนวนมาก
ต่อมาวันที่ 11 พ.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. ชุดสืบสวนเช็กข้อมูลจนทราบว่านายวิวัฒน์หลบหนีซ่อนตัวพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงได้เข้าตรวจสอบ ปรากฏว่าพบนายวิวัฒน์ นั่งอยู่บริเวณหน้าโรงแรม จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว จากนั้นได้นำตัวเข้าตรวจค้นภายในห้องพักอาศัย เนื่องจากมีอาการพิรุธน่าสงสัย
จากการตรวจค้นพบเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ยี่ห้อไทยอาร์ม จำนวน 50 นัด, ยี่ห้อ Warrior จำนวน 50 นัด ซุกซ่อนภายในกระเป๋า เดินทางของนายวิวัฒน์ จึงได้จับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหามีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจับกุมตัวตามหมายจับจำนวน 10 หมายจับ ในข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จฯ และฉ้อโกงประชาชน” จากนั้นควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ค้นห้องพัก
พล.ต.ต.พันธนะยังฝากประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนที่ตก เป็นเหยื่อ เนื่องจากตัวผู้ต้องหานี้ใช้วิธีการปลอมเฟซบุ๊กหลายบัญชี เช่น “หจก.วัสดุภัณฑ์จำกัด”, “Ajarn Wattharungsilp”, “Ajarn Subthawee”, “ทรัพย์ การค้า”, “คนสีเทา แต่ใจอบอุ่น” หากได้รับความเสียหายเคยถูกหลอกลวงให้รีบแจ้งสถานีตำรวจใกล้บ้านท่าน หรือแจ้งความในระบบแจ้งความออนไลน์ เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติม กับผู้ต้องหารายนี้
ช่วยกันแจ้งเอาผิดอย่าเห็นเงินเล็กน้อยจะได้ช่วยขจัดคนร้ายให้หายไปจากวงการค้าออนไลน์
