“ที่ก่อเหตุปล้นเพราะคิดว่าชาวจีนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มสีเทา จึงมีเงินและทรัพย์สินจำนวนมาก และที่สำคัญไม่น่าจะแจ้งตำรวจ แต่พอบุกไปปล้นจริงๆ กลายเป็นว่าเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดา”
คำสารภาพจากปาก นายสราวุธ สุธาพจน์ (เบียร์) อายุ 31 ปี หรือฉายา “เบียร์ กอไผ่” หัวหน้าแก๊งปล้นบ้านคนจีน หลังถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว เป็นการปิดคดีปล้นอุกอาจกลางเมืองพัทยา
พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี แถลง
เหตุการณ์รายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ของวันที่ 3 พ.ค. ผ่านมา พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ธัชญ์ศักดิ์ จีรัฐติกุลชัย สว.สอบสวน หน่วยสอบสวนย่อยโค้งดงตาล สภ.เมืองพัทยา ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี ชุดสืบสวนภาค 2 และกองตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเขต 2 ชลบุรี เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายก่อเหตุบุกปล้นบ้านชาวจีน ภายในหมู่บ้านพัทยาเมืองใหม่ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
เหยื่อชาวจีน 3 คนให้การว่า ช่วงเช้ามืดได้มีคนร้าย 3 คนบุกเข้ามาในบ้าน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า โดย 1 ใน 3 คนร้ายถืออาวุธปืน จ่อหัว ส่วนอีก 2 คนช่วยกันใช้สายไฟฟ้ามัดมือมัด เท้า ข่มขู่บังคับให้บอกที่ซ่อนทรัพย์สินภายในบ้านก่อนจะปล้นเงินสด 170,000 บาท โทรศัพท์ มือถือ 4 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง นาฬิกา 3 เรือน แหวนทอง 1 วง
นอกจากนี้ คนร้าย ยังบังคับให้โอนเงินผ่านแอพฯ ธนาคาร 2 ครั้ง ครั้งแรก 7,400 บาท ครั้งที่สอง 200,000 บาท จากนั้นก็พากันหลบหนี โดยเอารถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน 1 ขณ 5932 กรุงเทพฯ และเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิด ไปด้วยรวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท
สมุนจนมุมคนแรก
Advertisement
หลังเกิดเหตุทีมสืบสวนออกไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จนพบรถเก๋งเหยื่อจอดทิ้งไว้ในป่า ใกล้กับหมู่บ้านหนองตาอุ่น ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากจุดเกิดเหตุ 20 ก.ม. ส่วนรถกระบะที่ใช้ในการก่อเหตุ คนร้ายขับเข้าไปจอดที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากจุดที่พบรถผู้เสียหาย 11 ก.ม. โดยเป็นรถกระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ไม่ติดแผนป้ายทะเบียน ตรวจสอบหมายเลขเครื่องยนต์ และแผ่นป้าย พ.ร.บ. ทราบว่า หมายเลขทะเบียน ยฉ 1656 ชลบุรี โดยมีรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับตามเข้ามารับคนขับ ก่อนจะพากันหลบหนีออกไป
เที่ยงคืนที่วันเกิดเหตุ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมทีมตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี เข้าจับกุมคนร้าย ทั้ง 3 คน กำลังเดินลงจากอพาร์ตเมนต์ มาขึ้นรถเก๋ง พอตำรวจตะโกนว่า “ไอ้เบียร์ หยุด” หนึ่งในคนร้ายได้ยิงเปิดทางทันที 2 นัด จนเกิดการยิงปะทะกัน สุดตำรวจตามจับได้ 1 คน คือ นายชัยชนะ พิมพา (แบงค์) อายุ 28 ปี
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ตัวนายธวัชชัย สียางนอก หรือแบงค์ อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุอีกรายได้เป็นรายที่ 2
รถคนร้าย
ส่วนสาเหตุการปล้นในครั้งนี้ เป็นการประสงค์ต่อทรัพย์โดยตรง มีนายเบียร์ หรือ เบียร์ กอไผ่ เป็นคนสั่งการ ก่อนเกิดเหตุ กลุ่มผู้เสียหายชาวจีนได้จ้างพริตตี้สาวไปรับงานเอ็นเตอร์เทนชงเหล้า ระหว่างที่รับงาน เห็นว่าภายในบ้านมีทรัพย์สินเยอะ จึงโทร.ไปบอกนายเบียร์ ก่อนจะมีการวางแผนสั่งการให้ลูกสมุนก็คือคนร้ายทั้ง 3 คนไปก่อเหตุ โดยสาวพริตตี้มอมเหล้ากลุ่มคนจีนเมาได้ที่แล้วเผลอหลับไป สาวพริตตี้ก็เดินออกจากบ้านโดยไม่ล็อกประตูบ้าน ก่อนส่งสัญญาณให้เข้าปล้น
กระทั่งวันที่ 17 พ.ค. ก็สามารถจับกุมนายสราวุธ สุธาพจน์ อายุ 31 ปี หรือ “เบียร์ กอไผ่” หัวหน้ากลุ่ม นายนครินทร์ แซ่เตียว หรือนิว อายุ 26 ปี และนายวันชัย กรีดกราย หรือเอ็ม อายุ 27 ปี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนและทรัพย์สินบางส่วน ได้ที่แนวตะเข็บชายแดน ช่องทางธรรมชาติ ใกล้กับด่านชายแดนอรัญประเทศ (ด่านปอยเปต) ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
คุมสอบทีมปล้น
ทั้งหมดให้การยอมรับว่าที่ก่อเหตุปล้นเพราะคิดว่าชาวจีนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มสีเทาจึงมีเงินและทรัพย์สินจำนวนมาก แต่พอบุกไปปล้นจริงๆ กลับกลายว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวธรรมดา ภายหลังก่อเหตุประกอบกับทราบข่าวว่าเพื่อนอีก 2 คนถูกจับกุมได้แล้ว จึงตัดสินใจพากันหนีมายังเขตชายแดนเขมร บ้านผักกาด จ.จันทบุรี แล้วหลบหนีเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านทางช่องทางธรรมชาติ
โดยจะเข้าๆ ออกๆ เป็นระยะจนเงินที่ได้มาเริ่มหมดลง จึงตัดสินใจย้ายแหล่งกบดานมายังเขตชายแดนไทย-เขมร บ้านปอยเปต จ.สระแก้ว ซึ่งตั้งใจจะหางานทำแต่ก็เผลอเปิดโทรศัพท์มือถือจนถูกจับกุมได้ดังกล่าว ส่วนที่ก่อเหตุปล้นนั้นเพราะติดพนันออนไลน์ และหาเงินไปใช้หนี้
นอกจากนี้ ยังจับผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 1 คน เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 พ.ค. คือ นายอาทิตย์ สีดอกบวบ หรือแบงค์ อายุ 22 ปี โดยมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ รับหน้าที่เปิดบัญชีม้า ที่กลุ่ม ผู้ต้องหาบังคับให้ผู้เสียหายชาวจีนโอนเงินเข้าบัญชีให้นายเบียร์ไปกดเงินออกมาก่อนหลบหนี
นิราช ทิพย์ศรี
นันทพล ทิพย์ศรี เรื่อง/ภาพ
