ฟอร์มทีมกันเสร็จไม่กี่วัน ค่ายรถยนต์ ‘ฮุนได’ ที่วันนี้บริษัทแม่จากแดนกิมจิ เข้ามาดำเนินธุรกิจในบ้านเราเอง ภายใต้ชื่อ ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย

ไม่รอช้า จัดทริปทดสอบกับ เจ้าฮุนได สตาร์เกเซอร์ ครอสโอเวอร์ สไตล์ MPV ที่เปิดตัวเป็นรุ่นแรก ภายใต้ร่มเงาบริษัทแม่ ในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา บนเส้นทาง จ.ภูเก็ต สู่จ.พังงา

ฮุนได สตาร์เกเซอร์ ครอสโอเวอร์ MPV มีให้เลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง เบาะแถวสองแบบ กัปตันซีต รายแรก และรายเดียวในเซ็กเมนต์นี้ และแบบ 7 ที่นั่ง

ดีไซน์ของเจ้าฮุนได สตาร์เกเซอร์ ออกแบบมาอย่างเฉพาะตัว ไฟส่องสว่างเวลากลางวันคาดยาวด้านหน้ารถ ชุดไฟหน้า LED แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์

ไฟท้าย LED ดีไซน์ทรง H-Shape ล้อกับโลโก้แบรนด์ ไฟเบรกดีไซน์ใหม่ ให้นึกถึง ไพ่ข้าวหลามตัด รีโมตมีโหมดสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมเปิดแอร์และเปิดหน้าต่างเพื่อระบายความร้อนก่อนขึ้นขับ แต่ต้อง อยู่ห่างไม่เกิน 10 เมตร

ภายในหรูหรา คอนโซลหน้าตกแต่งเปียโนแบล็ก หน้าจอแสดงผลการขับขี่ TFT LCD ขนาด 4.2 นิ้ว ชัดเจนไม่ต้องละสายตาจากถนนเป็นเวลานาน

หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ สมาร์ตโฟน แอปเปิ้ล คาร์ เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ รวมถึงเชื่อมต่อกล้องหลัง เพื่อแสดงภาพเวลาถอย ที่ชาร์จไฟ มีมาให้หลายจุด รวมถึงแบบไร้สายด้วย

คันที่ ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ทดสอบเป็นรุ่น 7 ที่นั่ง ตัวท็อป ทดสอบกันทั้งหมด 3 คน ให้น้องร่วมคันว่าการกันไปก่อน แล้วอ้อมมานั่งเบาะแถวสอง เพราะมองไปที่เบาะแถวสามแล้วน่าจะนั่งได้ไม่ทน เหมาะที่จะพับลงเพื่อเก็บสัมภาระมากกว่า

เบาะนั่งแถวสองด้านซ้ายมีอุปกรณ์เสริม เพิ่มความสะดวก เป็นถาดแบบพับเก็บได้ เพื่อไว้วางสิ่งของประเภทกล่องข้าว หรือแท็บเล็ต เหมือนที่นั่งบนเครื่องบิน

ช่องแอร์อยู่ที่เพดาน ปรับแรงลมได้ด้วย ตัวเอง เพียงพอไปถึงที่นั่งแถวสาม เบาะที่นั่งค่อนข้างสั้น ทำให้รองรับต้นขาได้ไม่เต็มที่ ดีว่าพนักพิงหลังปรับเอนได้อีกหน่อย

ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลพอประมาณ แรงสะท้อนมาถึงเบาะนั่งค่อนข้างน้อย กระจกบานใหญ่ ทำให้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ และคลายความอึดอัดไปได้อย่างมาก

แรงเหวี่ยงจังหวะเปลี่ยนเลนและเข้าโค้ง รู้สึกได้ชัด ไม่น่าแปลกใจ เพราะด้วยความสูงของตัวรถ แต่ไม่ถึงกับทำให้โยกย้ายส่ายสะบัด

ได้เวลานั่งตำแหน่งคนขับ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 4 ก้าน ดีไซน์แปลกตา ตกแต่งวัสดุมันวาว มองดูคล้ายกลีบดอกไม้ เบาะนั่งสั้นไม่รองรับต้นขา ทำให้ต้องหาจุดลงตัวอยู่พักใหญ่

กำลังของเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ค่อนข้างอืดอยู่พอประมาณ รวมถึงการเร่งความเร็ว ที่มาช้ากว่าที่คิดไปหน่อย

ขับมาพักใหญ่เหลือบดูโหมดการขับขี่ ถึงได้รู้ว่าเป็นโหมดอีโค (ECO) ไม่น่าแปลกใจที่รถจะอืดอยู่บ้าง เลยปรับโหมดไปที่สมาร์ต (Smart) รู้สึกได้ถึงความกระชับของกำลังเครื่องยนต์ ที่เรียกมาใช้งานได้ทันใจขึ้น และข้อดีของโหมดนี้คือ ระบบจะคำนวณให้ได้ประสิทธิภาพ พร้อมทั้งความประหยัดสูงสุด

เส้นทางช่วงนี้ส่วนใหญ่ เป็นการขึ้นเขา รวมถึงมีทางโค้งเป็นระยะๆ บางจังหวะที่ต้องเรียกกำลังมาด่วนๆ เกียร์อัตโนมัติ IVT มีโหมดเกียร์แมนวล 7 สปีด ไว้ให้ได้ใช้งาน

ตำแหน่งคนขับ ช่วงเข้าโค้ง หรือเปลี่ยนเลนบนความเร็วสูง รับรู้แรงเหวี่ยงค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเลือกใช้โหมดการ ขับขี่สมาร์ตก็เป็นได้

ขับตามกันเป็นคาราวาน ต้องเร่งเครื่องตามเพื่อไม่ให้หลุดขบวน เจอคันหน้าเบรกกะทันหัน เตรียมกระทืบเบรก แต่ไม่ทัน เพราะระบบเบรกอัตโนมัติทำงานก่อนเพราะกระชั้นเกินไป

ระบบความปลอดภัยอื่นๆ มีมาให้อยู่ไม่น้อย อาทิ ระบบควบคุมให้รถอยู่กลางเลน ระบบควบคุมไม่ให้ออกนอกเลน ที่ทั้งเตือนและ ดึงกลับเมื่อรถออกนอกเลน จะว่าดีก็ดีอยู่ เวลาขับนานๆ แล้วมีอาการเผลอ เบลอ หรือเกิดหลับใน

แต่ที่เจอกับตัวเอง ขณะที่ขับบนความเร็วสูง แต่ต้องหักลงซ้ายเล็กน้อยเพื่อหลบวัตถุปริศนาที่อยู่บนถนน พวงมาลัยถูกรั้งให้อยู่ในเลน อย่างที่รับรู้ได้ชัดเจน ต้องขืนสู้กลับเพื่อไม่ให้ไปชนกับวัตถุดังกล่าว ทำเอาตกใจอยู่ไม่น้อย

ลงมาวิ่งพื้นราบ หันไปกดโหมดการขับขี่ ที่อยู่ใกล้คันเกียร์ ไปที่สปอร์ต (Sport) กำลังเครื่องยนต์จี๊ดจ๊าดขึ้นมาในบัดดล เกียร์ลากรอบนานขึ้น บางเกียร์นานจนแปลกใจ

ถึงจุดหมาย ขับไปทั้งสิ้น 89.6 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 6.7 ลิตรต่อ 100 ก.ม. สลับตัวเลขได้ความว่าปริ่ม 15 ก.ม.ต่อลิตร ทำได้ดีอยู่พอประมาณ

คนที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ ขนาดกะทัดรัด สำหรับครอบครัว กับราคาค่าตัวอยู่ที่ 769,000-909,000 บาท ฮุนได สตาร์เกเซอร์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

แต่ต้องไปทดลองขับด้วยตัวเอง ว่าตอบโจทย์การใช้งานและการขับขี่หรือไม่ ที่โชว์รูม ฮุนได ทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน