นานๆ ถึงจะได้มีโอกาสทดสอบรถยนต์สปอร์ตลักชัวรี่ ของค่ายตรีศูล ‘มาเซราติ’ ด้วยรุ่นรถที่อาจจะยังมีไม่มาก แถมกว่าจะเปิดตัวรุ่นใหม่ ต้องผ่านการออกแบบผลิต อย่างพิถีพิถัน ที่มาพร้อมกับความเป็น ‘ออล อิตาเลียน’
ล่าสุด มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว มาเซราติ ‘เกรคาเล่’ SUV สไตล์สปอร์ตคูเป้ ที่มีความหมายว่า ลมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยรถคันแรกพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าคนไทย ตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา รวมถึงมีรถให้ผู้สื่อข่าวได้ทดสอบด้วยเช่นกัน
ว่าแล้วจึงจัดทดสอบเล็กๆ ภายในสนามกอล์ฟ ย่านปทุมธานี
ก่อนเริ่มทดสอบ ผู้บริหารหนุ่ม ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย ได้อัพเดตข้อมูลตลาด และภาพรวมพอหอมปากหอมคอ ว่า วันนี้มาเซราติกลายเป็นค่ายรถยนต์สปอร์ตพรีเมียมทางเลือก ทั้งจากลูกค้าที่ใช้แบรนด์ในเซ็กเมนต์เดียวกัน และที่ขยับขึ้นมาจากกลุ่มพรีเมียม ที่ต้องการความแตกต่าง
และยิ่งเจ้าเกรคาเล่ จีที ที่ทดสอบวันนี้ ได้ปรับราคาเริ่มต้นลดลงเหลือ 5.89 ล้านบาท จากเดิม 6.49 ล้านบาท น่าจะดึงดูดใจลูกค้าได้เพิ่มขึ้น
Advertisement
การออกแบบพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด ให้ทุกวันกลายเป็นวันพิเศษ (Everyday Exceptional) ผสมผสานความหรูหรา แต่คงความสปอร์ตดุดันไว้อย่างเต็มเปี่ยม
กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะตัว ติดตั้งโลโก้ตรีศูลขนาดใหญ่ ด้านล่างของไฟหน้า เท่ากับด้านบนของกระจังหน้า อันเป็นของรถยนต์สปอร์ต
ไฟท้ายทรงบูมเมอร์แรง ปลายท่อ 4 ท่อคู่ซ้าย-ขวา เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต
ห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยหนังแท้ ไม้แท้ และคาร์บอนไฟเบอร์
จอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว อ่านข้อมูลชัดเจน หน้าจอกลางมี 2 จอ บน-ล่าง
จอบนขนาด 12.3 นิ้ว แบบทัชสกรีน สำหรับควบคุมระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จอล่างขนาด 8.8 นิ้ว สั่งการระบบแอร์ และไฟหน้า เกียร์เป็นแบบกดปุ่ม อยู่ระหว่างหน้าจอกลางบน-ล่าง
เครื่องยนต์เบนซิน ไมลด์ไฮบริด 4 สูบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ 48 โวลต์ และอิเล็กทรอนิกส์ซูเปอร์ชาร์จ หรือที่ชาวเราเรียว่า อี-บูสเตอร์ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
รอบแรกนั่งโดยสารที่เบาะหลัง เพราะต้องการพิสูจน์เบาะนั่งหลังแบบเธียเตอร์ ซีต ที่จะช่วยผ่อนคลายความอึดอัดไปได้ สักแค่ไหน เพราะปกติเวลานั่งเบาะหลังรถสไตล์ SUV โดยเฉพาะแบบคูเป้ ที่ด้านท้ายลาดลงแล้ว รู้สึกเหมือนถูกกดทับ
แต่กับเจ้าเกรคาเล่ จีที คันนี้หาได้รู้สึกเช่นนั้นไม่ ไม่มีอาการอึดอัดเลยแม้แต่น้อย ถึงพื้นที่เหนือศีรษะมีอยู่ไม่มาก เพราะสายตาอยู่กลางกระจกหน้า ทำให้ตำแหน่งการมองแทบไม่ต่างจากนั่งเบาะหน้า อีกทั้งพื้นที่วางขามีมาให้เหลือเฟือ ช่วยผ่อนคลายได้อย่างมาก
แรงเหวี่ยง แรงกระแทก มีเข้ามาถึงเบาะที่นั่งค่อนข้างน้อย แม้ใส่เต็มกับเนินลูกระนาด และวงเวียนอันแสนแคบ
ได้เวลาเป็นผู้ทดสอบเองบ้าง กดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ที่อยู่บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เสียงคำรามแบบฉบับ ‘มาเซราติ ซิกเนเจอร์ ซาวด์’ แทรกเข้ามาในห้องโดยสาร กระตุ้นให้อยากกระโจนออกไปซิ่งในบัดดล
กดปุ่มเกียร์ D เติมคันเร่งเบาๆ รถกระชากออกตัว ราวกับลูกธนูออกจากคันศร ดุดันจี๊ดจ๊าด ไม่ต่างจากรถสปอร์ต จนแทบลืมไปเลย ว่ากำลังทดสอบอยู่บนรถ SUV
เส้นทางที่ทดสอบ แม้จะไม่ได้ยาวมากนัก แต่มีทางตรงให้ได้ลองกดคันเร่งเต็มๆ มี วงเวียน และทางโค้ง รวมถึงเนินลูกระนาด เพื่อดูสมรรถนะของช่วงล่าง
เพิ่มน้ำหนักที่แป้นคันเร่ง ตัวรถโจนทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนเจอกับลูกระนาด รอบแรกถอนคันเร่ง ชะลอความเร็วลงหน่อย มีแรงกระแทกเบาๆ แทบไม่รู้สึก
ถึงวงเวียน รับรู้ได้ทันทีถึงความคมกริบของพวงมาลัย ควบคุมง่าย ขณะที่ช่วงล่างจับความรู้สึกถึงแรงเหวี่ยงแทบไม่เจอ
กลับมาอีกรอบ คราวนี้จัดเต็ม หมุนปุ่มปรับโหมดการขับขี่เป็นสปอร์ต ที่อยู่บนพวงมาลัย จากที่เดิมอยู่โหมดคอมฟอร์ต รับรู้ความกระชับของช่วงล่าง และอัตราเร่งที่มาไว กับการเปลี่ยนเกียร์ที่ลากรอบมากขึ้น
ทำเอาทางตรงที่ระยะทางเท่ากัน กลายเป็นสั้นไปในทันที เจอเนินลูกระนาด ครั้งนี้ไม่มีผ่อน ผลปรากฏว่าแรงกระแทกแทบไม่ต่างจากชะลอรถ
ถึงวงเวียนรอบนี้ใส่เต็ม ทำให้เห็นถึงสมรรถนะของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่ทำงานประสานระบบควบคุมการทรงตัว วีดีซีเอ็ม (VDCM-Vehicle Dynamic Control Module) ที่เฉียบคม แม้จะหักพวงมาลัยเกือบสุด แต่ตัวรถไม่มีอาการหน้าดื้อ ท้ายดิ้นให้ได้รู้สึก คุมพวงมาลัยนิ่งๆ ตัวรถก็ไปในทิศทางที่ต้องการได้ดั่งใจ
นักเลงรถ SUV สปอร์ตพรีเมียม แวะไปชมโฉมได้ที่โชว์รูมมาเซราติทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โชว์รูม ซ.สุขุมวิท 26 โชว์รูมสยามพารากอน และโชว์รูมไอคอนสยาม ได้ทุกวัน
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
