คณะกรรมการนโยบายการเงิน เอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ 2.00% ส่งสัญญาณขึ้นต่อเนื่อง รับเงินเฟ้อยังกดดัน เศรษฐกิจฟื้นไม่เต็มที่ พร้อมคงจีดีพีปีนี้ที่ 3.6% ส่งออกดีขึ้นเหลือติดลบ 0.1%

นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกนง.มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.75% เป็น 2.00% ต่อปี โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง การส่งออกฟื้นตัวอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป เงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลง แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวในระดับสูง มีความเสี่ยงจากแรงกดดันด้านอุปสงค์จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี และการส่งผ่านต้นทุนอาจปรับสูงขึ้นจากแรงกดดัน ด้านอุปทาน

“กนง. ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเข้าสู่ภาวะปกติมาแล้ว 6 ครั้งติดต่อกัน ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวมากขึ้น แต่โดยรวมยังอยู่ในภาวะผ่อนคลาย และเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะขยายตัวไม่เต็มที่ ขณะเดียวกันก็ยังมีความไม่แน่นอนในทุกด้าน ดังนั้น การปรับดอกเบี้ยในระดับที่เหมาะสม ก็จะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยมีเป้าหมายต้องการให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างมีศักยภาพ และยั่งยืน”

โดย กนง.เห็นชอบให้คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 ไว้ที่ 3.6% และปี 2567 ที่ 3.8% จากนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ที่ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 29 ล้านคน และปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 35.5 ล้านคน ส่งผลบวกต่อการจ้างงานและรายได้แรงงาน และเป็นแรงส่งต่อเนื่องไปยังการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การส่งออกทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ และคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นในระยะต่อไป คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ -0.1% และปี 2567 อยู่ที่ 3.6%

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวสูงกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนหนึ่งจากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ และความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลยังเป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งยังจัดตั้งไม่เสร็จ และยังไม่ได้มีการหยิบยกมาเป็นประเด็นที่จะใช้พิจารณาผลต่อ การขยายตัวเศรษฐกิจไทยในขณะนี้

นายปิติกล่าวเพิ่มเติมว่า แต่ที่ประชุมกนง.ได้หยิบยกนโยบายในภาพรวมที่ทุกพรรคได้หาเสียงไว้มาประเมินผลกระทบในแง่บวก แง่ลบต่อเศรษฐกิจในเบื้องต้น คาดว่าจะมีการหารือในรายละเอียดชัดเจนมากขึ้น เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จแล้ว

สำหรับอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับลดลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.5% และปีหน้าคาดอยู่ที่ 2.4% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะทรงตัว อยู่ที่ 2.0% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงเทียบกับอดีต จึงยังต้องติดตามความเสี่ยงเงินเฟ้อด้านสูง โดย กนง.พร้อมที่จะปรับขนาดและเงื่อนเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไทยเปลี่ยนไปจากที่ประเมินไว้

 








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน