รุมฉะข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ – ข้อเสนอจัดตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” ของนายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. โดยอ้างเหตุผลเป็นการตอบโจทย์การเมืองในตอนนี้ ท่ามกลางการ เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคการเมือง นำมาสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ความเห็นจากฝั่ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ มองว่า แนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ ขัดเจตนารมณ์ของประชาชนซึ่งไปเลือกตั้งแล้วตามกระบวนการประชาธิปไตย อีกทั้งคำว่า “ชาติ” ในความหมายของ “รัฐบาลแห่งชาติ” ไม่ใช่ชาติของประชาชนแต่เป็นชาติของบางคนที่กำลังจะหมดอำนาจ
“วันนี้ทุกอย่างเดินตามขั้นตอนอยู่แล้ว เราเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย เชื่อมั่นเสียงของประชาชนที่เลือกตั้ง เป็นเสียงส่วนใหญ่ของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยรวมกว่า 70% หากใครไม่พอใจผลที่ออกมาก็ขอให้เขารอไปอีก 4 ปี”
ด้าน นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ถามสวนถึงเหตุผลทันที เพิ่งเลือกตั้งเสร็จไม่ถึงเดือน พรรคอันดับ 1 ก็รวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาล่าง มีเหตุผลอะไรที่ต้องพูดถึงเรื่อง “รัฐบาลแห่งชาติ”
แล้วตั้งคำถามกลับว่า ผู้เสนอครั้งที่แล้วยกมือเลือกนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลอะไร หากเลือกเพราะดูจากการรวมเสียงข้างมากถามว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ฉันทามติประชาชนหรือ
การเรียกร้องให้งดเว้นการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรานั้นเป็นเสรีภาพในการแสดงออก แต่คนเรียกร้องก็ไม่ใช่คนตัดสิน ยิ่งออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ดูแย่ว่าไม่ปล่อยวาง ยึดติดและไม่เท่าทันโลก
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้ว่า หากจะทำต้องยกเว้นกฎหมายบางมาตราแต่ก็ไม่ควรทำ ถ้ายกเว้นเรื่องนี้ได้ก็ยกเว้นได้หมดทุกเรื่อง ทำให้รัฐธรรมนูญและกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นการสร้างวินัยผิดๆให้คนในชาติ
อีกทั้งการมีรัฐบาลแห่งชาติจะไม่มีระบบตรวจสอบถ่วงดุล ไม่มีฝ่ายค้าน ที่สำคัญทำลายจิตวิญญาณการเลือกตั้ง และในระยะยาวจะทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย ไม่เห็นคุณค่าการเลือกตั้ง
Advertisement
ข้อเสนอไม่ชอบด้วยเหตุผล ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ ขณะที่การตั้งรัฐบาลยังเพิ่งเริ่มต้น ยังมีทางเดินอยู่ ไม่ได้ถึงทางตัน อย่ามาสร้างความจำเป็นที่ไม่จำเป็นให้เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เห็นว่าขณะนี้ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต ยังมีช่องทางให้เดินต่อไปได้ตามรัฐธรรมนูญ
ทวี สอดส่อง
จเด็จ อินสว่าง
การเลือกตั้งครั้งนี้ฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงเกินกว่า 300 เสียง หากเกิดปัญหาถึงขั้นไปต่อไม่ได้ก็ต้องสอบถามผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะประชาชนว่ายอมรับได้หรือไม่ ยังเชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยสามารถจัดตั้ง “รัฐบาลของประชาชน” ได้สำเร็จ
ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กย้อนศรให้ว่า “สมาชิกวุฒิสภาเสนอให้งดใช้รัฐธรรมนูญ บางมาตรา เพื่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ผมว่างดใช้รัฐธรรมนูญมาตราเดียว ไม่ต้องให้ ส.ว.250 คน มาเลือกนายกฯ เราก็ได้รัฐบาลแห่งประชาชนแล้วครับ” พร้อมติดแฮชแท็ก ส.ว.มีไว้ทำไม
ส่วนความเห็นของซีกพรรครัฐบาลเดิม นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องนี้ ควรให้ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนและกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไป และวันนี้ก็มาถูกทางคือให้โอกาสพรรคที่ได้เสียงลำดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลก่อน
หากบ้านเมืองเกิดปัญหาเวลานั้นค่อยมาพิจารณากันใหม่ ที่สำคัญต้องคำนึงถึงความเห็นคนในสังคม
ส่วน นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่าการเลือกตั้งเพิ่งผ่านไปเพียง 2 สัปดาห์ควรรอดูสถานการณ์ ไปก่อนการดำเนินการทุกอย่างอยากให้เป็นไปตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญจะดีกว่า
นายธนกร วงบุญคงชนะ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เห็นไม่ต่างกันว่า ต้องให้เกียรติพรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล และเชื่อว่าเขาจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่หากจัดตั้งไม่ได้ก็ให้พรรคอันดับ2
เป็นรัฐบาลปกติตามระบอบประชาธิปไตยน่าจะเหมาะสมกว่าและหากติดล็อกการจะให้ตัวแทน 2 ลุง เข้ามาแก้ปัญหาก็ยังเป็นเรื่องอีกไกล วันนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังปกติ ไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆแต่อนาคต ไม่ทราบ พรรครวมไทยสร้างชาติขออยู่นิ่งๆ ใช้เวลาทำให้พรรคเป็นที่นิยมมากขึ้น และเฝ้ามองการจัดตั้งรัฐบาลด้วยการเอาใจช่วย
นายวิทยา แก้วภราดัย รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ชี้ว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะเสนอ ที่ว่าจะปลดล็อกวันนี้มีล็อกอะไรที่ต้องปลด เพราะกระบวนการการเลือกตั้งวันนี้ยังไม่รับรองผลอย่างเป็นทางการเลย เวลานี้ไม่เหมาะจะพูดเพราะวันนี้ยังไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลย แต่ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมาก็ค่อยว่ากันไปตามสถานการณ์
